Krungsri Biz Online
1
Accept Terms &
Conditions
2
PDPA
3
Verify user's Information
4
Enter Profile
5
Enter Username
6
Complete
โปรดอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขบริการ และนโยบายการรักษาความปลอดภัย
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีออนไลน์
  ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์
  (เงื่อนไขนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป)
   
ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไป
 
1. บริการ Krungsri Biz Online ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "บริการกรุงศรีบิซออนไลน์" เป็นการให้บริการของธนาคารทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) เพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบถามยอดคงเหลือในบัญชี สอบถามรายการเคลื่อนไหวในบัญชี โอนเงินระหว่างบัญชีของตนเองภายในธนาคาร โอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่นภายในธนาคาร โอนเงินบุคคลอื่นต่างธนาคาร โอนเงินต่างประเทศ สอบถามสถานะเช็ค อายัดเช็ค ชำระค่าสินค้าหรือบริการ การขอออกหนังสือค้ำประกันของธนาคาร และให้บริการข้อมูลด้านธุรกิจการเงิน เป็นต้น
2. บัญชีหลักและบัญชีรองของผู้ใช้บริการจะต้องมีชื่อเจ้าของบัญชีเป็นบุคคลเดียวกัน และต้องไม่เป็นบัญชีเงินฝากที่เปิดผ่านช่องทางออนไลน์หรือบัญชีเงินฝากประเภท “บัญชีร่วม” และบัญชี “เพื่อ” หรือ “โดย”
3. ผู้ใช้บริการที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ สามารถสมัครบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร สาขาของธนาคาร หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือแท็บเลตที่สามารถเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด โดยผู้ใช้บริการจะต้องกรอกข้อมูลการสมัครใช้บริการให้ครบถ้วนและถูกต้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะต้องเป็นหมายเลขเดียวกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผู้ใช้บริการแจ้งไว้กับธนาคารสำหรับบัญชีเงินฝากที่ผู้ใช้บริการนำมาผูกกับบริการนี้ โดยการสมัครจะมีผลสมบูรณ์เมื่อผู้ใช้บริการได้รับข้อความยืนยันการสมัครผ่าน E-mail Address หรือผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผู้ใช้บริการแจ้งไว้กับธนาคาร
4. ผู้ใช้บริการจะต้องกำหนดรหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) รวมทั้งรหัสลับส่วนตัว (PIN) ด้วยตนเองเพื่อเข้าใช้งานระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ตามวิธีการและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
5. ผู้ใช้บริการสามารถเข้าสู่ระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคารโดยการใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) หรือผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตที่สามารถเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารได้ โดยการใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) และ/หรือ รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือโดยการใช้ลายนิ้วมือ/ใบหน้า ที่ผ่านระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) บนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตแทนการใช้รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือผ่านช่องทางอื่นตามที่ธนาคารกำหนดในภายหน้าได้
6. ในการเข้าสู่ระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต โดยการใช้ลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) แทนการใช้รหัสลับส่วนตัว (PIN) ผู้ใช้บริการต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขของระบบโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต รวมทั้งขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด
7. ผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) และ/หรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) ได้ด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้ โดยดำเนินการตามวิธีการและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และตกลงให้รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) และลายนิ้วมือ/ใบหน้า ที่เปลี่ยนแปลงนั้น เป็นรหัสผ่านสำหรับการใช้บริการที่มีผลผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ ผู้ใช้บริการทราบดีว่ารหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) และลายนิ้วมือ/ใบหน้า เป็นข้อมูลลับเฉพาะซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษาไว้และมิให้บุคคลอื่นใดล่วงรู้โดยเด็ดขาดรวมทั้งธนาคาร
8. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเข้าสู่ระบบกรุงศรีบิซออนไลน์โดยใช้รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ ลายนิ้วมือ/ใบหน้า(Fingerprint/Touch ID/Face ID) ผู้ใช้บริการจะต้องบันทึกรหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ ลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) ให้ถูกต้อง หากผู้ใช้บริการบันทึกข้อมูลผิดเกินกว่าจำนวนครั้งที่ธนาคารกำหนด ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถใช้บริการได้อีกต่อไป โดยผู้ใช้บริการต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด หรือติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนดต่อไป ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ได้เข้าใช้บริการเป็นเวลาเกินกว่าที่ธนาคารกำหนด ธนาคารจะระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราวจนกว่าผู้ใช้บริการจะติดต่อมายังธนาคาร
9. ในการทำธุรกรรมบางประเภทที่อาจเข้าเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ต้องมีขั้นตอนยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการผ่านช่องทางการให้บริการต่างๆ ของธนาคารก่อน โดยการใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบข้อมูลชีวมิติ (biometric comparison) รวมทั้งการนำเทคโนโลยี liveness detection มาใช้ตามความเหมาะสม เช่น ธุรกรรมโอนเงินที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการทำการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคารไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคารไม่สมบูรณ์หรือไม่เป็นปัจจุบัน ผู้ใช้บริการต้องไปยังสาขาธนาคารเพื่อปรับปรุงข้อมูลของผู้ใช้บริการเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารในครั้งต่อไปได้ ทั้งนี้ เงื่อนไขการทำธุรกรรมที่ต้องจัดให้มีการยืนยันตัวตนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
10. การกระทำการใดๆ ผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ หากกระทำโดยใช้รหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะใช้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนเงิน การชำระเงิน หรือใช้เพื่อทำรายการที่ไม่ใช่ธุรกรรมทางการเงิน เช่น การตรวจสอบยอดเงิน การตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี การให้ความยินยอมในเรื่องต่างๆ เช่น การให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลต่อบริษัทข้อมูลเครดิต การให้ความยินยอมในการนำเสนอสินค้าหรือบริการ เป็นต้น การรับรองความถูกต้องของเอกสาร หรือการสมัครใช้บริการสินเชื่อหรือบริการอื่นๆ และการกระทำดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอน วิธีการหรือเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดไว้ในคำแนะนำ คู่มือหรือเอกสารใดๆ เกี่ยวกับการใช้บริการ ผู้ใช้บริการยอมให้ถือว่าการกระทำนั้นมีผลสมบูรณ์นับตั้งแต่เวลาที่มีการยืนยันทำธุรกรรม รวมทั้งให้ถือว่าเป็นการที่ผู้ใช้บริการได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ไว้แก่ธนาคารเพื่อเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมผ่านบริการในครั้งนั้นๆ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องลงลายมือชื่อเป็นหลักฐานในเอกสารใดๆ อีก และตกลงให้สามารถใช้ข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นต้นฉบับเอกสารที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่าผู้ใช้บริการได้ทำธุรกรรมนั้นและใช้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ใช้บริการได้ และยินยอมรับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง โดยผู้ใช้บริการตกลงยอมรับและรับทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมด้วยตนเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดยืนยันเพิ่มเติม ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยความทุจริตของบุคคลภายนอกหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่ผู้ใช้บริการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำทุจริตดังกล่าว โดยธนาคาร/บริษัทในเครือ ไม่ต้องรับผิดชอบในข้อผิดพลาดหรือบกพร่อง หรือความเสียหายใดๆ อันอาจเกิดขึ้นและผู้ใช้บริการจะไม่นำไปเป็นข้ออ้างยืนยัน และ/หรือใช้เป็นหลักฐานโต้แย้งหรือฟ้องร้องต่อสู้กับธนาคาร/บริษัทในเครือแต่ประการใดทั้งสิ้น
11. ในกรณีที่รหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำรายการ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ชำรุด สูญหาย หรือถูกโจรกรรม ผู้ใช้บริการต้องแจ้ง และ/หรือขอระงับธุรกรรม และ/หรือการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ และ/หรือ ขออายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือรหัสอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรืออุปกรณ์ที่ใช้ทำรายการดังกล่าว ทันทีผ่าน Krungsri Call Center 1572 โดยธนาคารจะทำการระงับธุรกรรม และ/หรือการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ และ/หรืออายัด หรือระงับการใช้รหัสดังกล่าว และอุปกรณ์ที่ใช้ทำรายการทันทีที่ผู้ใช้บริการผ่านการตรวจสอบความเป็นเจ้าของบัญชีตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนดแล้ว ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยอมรับว่าการทำรายการใดๆ หรือการทำรายการด้วยรหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้บริการก่อนที่ธนาคารจะทำการระงับหรืออายัดนั้น ให้มีผลผูกพันผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบและยินยอมชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทุกประการ
12. การกระทำใดๆ ผ่านบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ โดยใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือ ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) ของผู้ใช้บริการ หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด ผู้ใช้บริการยอมรับว่าเป็น การกระทำของผู้ใช้บริการเอง แม้ผู้ใช้บริการจะมิได้ทำลงด้วยตนเอง ธนาคารไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบแต่ประการใดอันเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เว้นแต่ความเสียหายดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของธนาคาร
13. การทำรายการใดๆ ภายใต้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้ทำรายการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องครบถ้วน และผู้ใช้บริการจะได้รับข้อมูลแสดงผลว่าการทำรายการสำเร็จแล้ว พร้อมกับหมายเลขอ้างอิงการทำรายการ (Transaction Reference Number) โดยผู้ใช้บริการสามารถเรียกดูหรือตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมทางการเงิน (Report) ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด และผู้ใช้บริการยอมรับว่าบันทึก หลักฐาน หรือเอกสารใดๆ ก็ตามที่ธนาคารได้จัดทำขึ้นเนื่องจากการใช้บริการของผู้ใช้บริการนั้นมีความถูกต้อง และสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานยันผู้ใช้บริการในการพิสูจน์มูลหนี้ การหัก และ/หรือการโอนเงิน และ/หรือการใช้บริการใดๆ ได้โดยชอบ แม้ว่าข้อมูลนั้นจะเก็บรักษา และ/หรือรวบรวมไว้ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือในรูปแบบใดก็ตาม
14. ผู้ใช้บริการยอมรับว่าบริการสั่งอายัดเช็คธนาคาร จะรับดำเนินการตามคำสั่งของผู้ใช้บริการให้โดยเร็ว แต่หากเช็คฉบับนั้นอยู่ในกระบวนการที่ธนาคารไม่สามารถระงับการจ่ายเงินได้ ผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบความเสียหายนั้น
15. ผู้ใช้บริการสามารถอายัดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวันที่ผูกอยู่กับระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ รวมทั้งอายัดบัตร KRUNGSRI ATM หรือบัตร KRUNGSRI VISA Debit ที่ผูกอยู่กับบัญชีเงินฝากดังกล่าวผ่านบริการนี้ได้ โดยการอายัดจะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้ปฎิบัติตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด และได้รับการยืนยันจากธนาคารผ่านระบบกรุงศรีบิซออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ผู้ใช้บริการยังคงต้องรับผิดชอบในธุรกรรมที่เกิดขึ้นก่อนการอายัดเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ การอายัดบัญชีเงินฝากจะมีผลทำให้รายการโอนเงินที่มีข้อตกลงล่วงหน้าทั้งหมดภายใต้บัญชีเงินฝากที่ถูกอายัดไม่สามารถทำรายการได้
16. ผู้ใช้บริการ สามารถเลือกรูปแบบการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ ได้ดังต่อไปนี้
(1) แบบ Dual Control ซึ่งเป็นการให้บริการแบบมีผู้ทำรายการ (Maker) และผู้อนุมัติรายการ (Approver) โดยผู้ใช้บริการจะต้องดำเนินการให้มีผู้แทนของผู้ใช้บริการทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระบบ (Business Admin) เพื่อจัดการด้านบัญชี และผู้ใช้งานระบบ (User) ตามขั้นตอนและรูปแบบที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงว่า การกระทำใดๆ ที่ทำผ่านผู้ทำรายการ (Maker) และได้รับอนุมัติจากผู้อนุมัติรายการ (Approver) ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะใช้เพื่อทำ ธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวถูกต้องและมีผลผูกพันผู้ใช้บริการ
(2) แบบ Single Control ซึ่งเป็นการให้บริการแบบมีผู้ดำเนินการเพียงคนเดียว โดยผู้ใช้บริการจะต้องดำเนินการให้มีผู้แทนของผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำการผ่านบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ โดยใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) หรือรหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP)
17. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า ธนาคารสงวนสิทธิในการระงับการให้บริการหรือยกเลิกการให้บริการทันที ในกรณีที่ธนาคารมีเหตุจำเป็นเช่นในกรณีดังนี้ โดยผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ผู้ใช้บริการหรือบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น (ก) การให้บริการของธนาคารขัดต่อกฎ ระเบียบ คำสั่ง บทบัญญัติของกฎหมาย หรือขัดต่อหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงานของธนาคาร หรือ (ข) คำสั่งของผู้ใช้บริการมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ธนาคารกำหนด หรือผู้ใช้บริการมิได้จัดทำหรือส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องและจำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมตามที่ธนาคารร้องขอ หรือ (ค) ผู้ใช้บริการไม่มี หรือถูกระงับใช้วงเงินสินเชื่อกับธนาคาร หรือการโอนเงินจะเป็นเหตุให้ยอดเงินในบัญชีเกินกว่าวงเงินสินเชื่อที่ตกลงไว้กับธนาคาร หรือ (ง) บัญชีของผู้ใช้บริการหรือบัญชีที่รับโอนถูกระงับการใช้หรือยกเลิก หรือ (จ) ผู้ใช้บริการมียอดเงินคงเหลือที่ใช้ได้ในบัญชีไม่เพียงพอต่อการทำธุรกรรม หรือ (ฉ) ผู้ใช้บริการปฏิบัติผิดเงื่อนไข หรือข้อตกลงของธนาคาร หรืออยู่ในระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมาย หรือ (ช) ระบบใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการชำรุด ขัดข้อง อยู่ระหว่างการซ่อมแซม หรือปิดระบบชั่วคราว และธนาคารได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าถึงความขัดข้องในการทำธุรกรรม หรือได้แจ้งในขณะที่ทำธุรกรรม หรือ (ซ) ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร
18. ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบการติดต่อสื่อสารของธนาคารของผู้ใช้บริการ หรือของผู้ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) หรือของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Mobile Operator) และระบบไฟฟ้า ระบบการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม หรือระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการชำรุด ขัดข้อง อยู่ระหว่างการซ่อมแซม หรือปิดระบบชั่วคราวเพื่อบำรุงรักษา เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้บริการได้ ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่ยกเอาเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องให้ธนาคารรับผิดชอบแต่ประการใด
19. ในกรณีพบข้อผิดพลาดใดๆ หรือข้อสงสัยใดๆ ในการใช้บริการ ผู้ใช้บริการต้องแจ้งให้ธนาคารทราบผ่าน Krungsri Call Center 1572 หรือช่องทางอื่นที่ธนาคารกำหนดโดยพลัน พร้อมด้วยข้อมูลอย่างน้อยดังนี้
(1) รหัสประจำตัว ( User ID ) ของผู้ใช้บริการ
(2) วันและเวลาที่ทำรายการ
(3) หมายเลขอ้างอิงการทำรายการ (Transaction Reference Number)
(4) ประเภทรายการที่ใช้บริการ
(5) เลขที่บัญชีที่โอนเงินออกและเลขที่บัญชีที่โอนเงินเข้า
(6) จำนวนเงินที่ทำรายการ
(7) ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
(8) สถานที่ติดต่อของผู้ใช้บริการหรือผู้แจ้ง (กรณีแตกต่างจากที่ได้ระบุไว้ในคำขอใช้บริการ)
20. ภายหลังจากที่ธนาคารได้รับแจ้งข้อผิดพลาด หรือข้อสงสัยใดๆ ในการใช้บริการจากผู้ใช้บริการ ธนาคารจะทำการตรวจสอบข้อผิดพลาดโดยพิจารณาจากรายงาน ซึ่งถือเป็นหลักฐานของธนาคารประกอบกับบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการ และแจ้งความคืบหน้า รวมทั้งชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการ ตลอดจนกำหนดเวลาในการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ผู้ใช้บริการทราบ ภายในระยะเวลา เจ็ด (7) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากผลการตรวจสอบปรากฏว่าเกิดข้อผิดพลาด และธนาคารต้องมีการหัก หรือโอนเงิน หรือดำเนินการอย่างใดๆ กับบัญชีของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารดำเนินการดังกล่าวกับบัญชีทุกประเภทของผู้ใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคาร ตามข้อกำหนด เงื่อนไข และวิธีการที่ธนาคารกำหนดไว้ทั้งในขณะนี้และที่จะกำหนดขึ้นใหม่ในภายหน้าได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้แก่ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าแต่อย่างใด
21. ผู้ใช้บริการยินยอมผูกพันตนและปฎิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ระเบียบ ตลอดจนคู่มือสำหรับการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ในแต่ละประเภทตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ซึ่งธนาคารได้ส่งหรือแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ หรือที่ธนาคารจะประกาศเพิ่มเติมต่อไปในภายหน้า โดยให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์
22. ธนาคารมีสิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากทุกประเภทของผู้ใช้บริการ เพื่อชำระค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการและค่าใช้จ่ายใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ ตามอัตราหรือจำนวนที่ธนาคารกำหนดในขณะนี้หรือที่จะกำหนดใหม่ในภายหน้า หากเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการไม่มี หรือมีแต่ไม่เพียงพอที่จะให้ธนาคารหักชำระค่าใช้จ่ายเช่นว่านั้น หรือไม่เพียงพอให้ธนาคารดำเนินการให้บริการได้ ธนาคารมีสิทธิที่จะไม่ให้บริการในครั้งนั้นๆ ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังกล่าวได้โดยประกาศให้ทราบล่วงหน้า สามสิบ (30) วัน
23. ผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ ได้โดยผ่านการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ หรือทำเป็นหนังสือมายังธนาคารตามแบบและวิธีการที่ธนาคารกำหนด อนึ่ง การปิดบัญชีหลักที่ขอใช้บริการจะมีผลเป็นการยกเลิกการใช้บริการด้วยหากบัญชีที่ผูกกับบริการกรุงศรีบิซออนไลน์มีเพียงบัญชีเดียว ทั้งนี้รายการคงค้างของคำสั่งการทำรายการหลังครบกำหนดที่กล่าวนั้นจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ
24. ธนาคารอาจทำการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงการให้บริการ และจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านทางบริการกรุงศรีบิซออนไลน์หรือประกาศของธนาคารทุกครั้ง
25. ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิแก้ไข เปลี่ยนแปลง ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มหรือลดการให้บริการเฉพาะบริการใดบริการหนึ่ง หรือยกเลิกการให้บริการทั้งหมดได้ โดยธนาคารจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าในระยะเวลาสิบห้า (15) วัน ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์การใช้บริการต่างๆ ของธนาคารที่เหมาะสม (เช่น เว็บไซต์ของธนาคาร ประกาศ ณ ที่ทำการของธนาคาร และ/หรือช่องทางอื่นๆ) เว้นแต่มีกรณีมีเหตุที่จำเป็นเพื่อป้องกันการทุจริต หรือกรณีผู้ใช้บริการผิดนัดชำระหนี้หรือผิดเงื่อนไขใดๆ ในสัญญาหรือข้อตกลงกับธนาคาร ธนาคารสามารถแจ้งการเปลี่ยนแปลงหรือแจ้งการดำเนินการให้ทราบภายหลังได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในกรณีที่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลให้ผู้ใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือมีภาระความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกการใช้บริการได้
26. เอกสารหรือหนังสือใดๆ ที่ธนาคารส่งไปยังผู้ใช้บริการตามที่อยู่หรือที่ทำงาน หรือสถานศึกษา หรือส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address) ที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งไว้ในคำขอใช้บริการหรือที่อยู่ที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ให้ถือว่าผู้ใช้บริการได้ทราบข้อความในเอกสาร หรือหนังสือนั้น ๆ แล้ว
27. ผู้ใช้บริการยินยอมให้ธนาคารทำการเปิดเผย แลกเปลี่ยน ส่ง และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ หรือข้อมูลที่ผู้ใช้บริการให้ไว้กับธนาคารในการสมัครหรือใช้บริการนี้ ให้กับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ผู้ประมวลผลข้อมูลของธนาคาร ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของธนาคาร ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันในลักษณะ co-brand ซึ่งธนาคารจำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อให้ธนาคารสามารถให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ได้ รวมทั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ เพื่อป้องกันและตรวจสอบรายการธุรกรรมที่อาจจะเกิดการทุจริต เพื่อปรับปรุงบริการหรือผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารในการให้บริการ เพื่อสนับสนุนการให้บริการของธนาคาร เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการติดตามทวงถามหนี้ เพื่อประโยชน์ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อตรวจสอบรายการชำระเงินหรือรายการฝาก/ถอน/โอนเงิน (เฉพาะในกรณีที่มีการใช้บริการทางการเงิน) หรือเพื่อการพิสูจน์ตัวตนหรือยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการทางดิจิทัล ผ่าน National Digital ID Platform (NDID Platform) (เฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้บริการสมัครใช้บริการ NDID)
28. ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ธนาคารจะรักษาข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้บริการและบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อันเนื่องมาจากการให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ไว้เป็นความลับ ในกรณีที่มีกฎหมาย ประกาศ หรือระเบียบของทางราชการ กำหนดให้ธนาคารต้องเปิดเผยข้อมูล หรือธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้บริการ คู่ค้าหรือลูกค้าของผู้ใช้บริการรายหนึ่งรายใด หรือหลายรายต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ เมื่อธนาคารได้รับการร้องขอ ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารเปิดเผยข้อมูล และ/หรือจัดทำรายงานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้บริการต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐได้ทุกประการ
29. เมื่อผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใดแก่ธนาคาร (ก) ผู้ใช้บริการรับรองที่จะตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการให้แก่ธนาคาร และแจ้งธนาคารถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ (หากมี) (ข) ผู้ใช้บริการรับรองว่าผู้ใช้บริการได้รับความยินยอม หรือสามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับ (ค) ผู้ใช้บริการรับรองว่าผู้ใช้บริการได้แจ้งประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องของธนาคารแก่บุคคลดังกล่าวแล้ว และ (ง) ผู้ใช้บริการรับรองว่าธนาคารสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอน ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของธนาคาร ซึ่งอาจมีการแก้ไขเป็นครั้งคราว ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ทั้งหมดที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ฉบับนี้
30. ผู้ใช้บริการจะปฏิบัติตามและจะดำเนินการให้บุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เท่าที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของธนาคารภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงจะให้ความร่วมมือกับธนาคาร และ/หรือจะลงนาม ส่งมอบ หรือดำเนินการให้มีการส่งมอบเอกสาร หรือหลักฐานใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่ธนาคารร้องขอโดยชอบด้วยเหตุผล
 
การใช้บริการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการ
1. ในกรณีที่สมัครใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ด้วยบัญชีสิน เชื่อบุคคล ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถใช้บริการชำระค่าสินค้าและบริการและบริการโอนเงิน ได้
2. เงื่อนไขการทำรายการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการ
(1) ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการโอนเงินออกจากบัญชีได้เฉพาะบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน
(2) ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการโอนเงินระหว่างบัญชีตนเองภายในธนาคารที่ได้มีการลงทะเบียนเลขที่บัญชีแล้วได้โดยไม่จำกัดวงเงิน
(3) ผู้ใช้บริการบุคคลธรรมดาสามารถโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่นภายในธนาคารได้ สูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท/วัน และลูกค้านิติบุคคลสามารถโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่นภายในธนาคารได้ สูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท/วัน
(4) ผู้ใช้บริการบุคคลธรรมดาสามารถโอนเงินต่างธนาคาร (ORFT) เฉพาะบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวันได้ไม่เกิน 2,000,000 บาท/รายการ สูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท/วัน
(5) ผู้ใช้บริการลูกค้าบุคคลธรรมดาสามารถทำรายการโอนเงินผ่านบริการกรุงศรีพร้อมเพย์ได้ภายในวงเงินสูงสุดเมื่อรวมกับบริการโอนเงินต่างธนาคารในข้อ 2.2(4) แล้วไม่เกิน 5,000,000 บาท/รายการ
(6) ผู้ใช้บริการลูกค้านิติบุคคลสามารถทำรายการโอนเงินผ่านบริการกรุงศรีพร้อมเพย์ได้ภายในวงเงินสูงสุดเมื่อรวมกับบริการโอนเงินต่างธนาคารในข้อ 2.2(4) แล้วไม่เกิน 2,000,000 บาท/รายการ และ 5,000,000 บาท/วัน
(7) ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการชำระสินค้าและบริการได้ไม่เกิน 5,000,000 บาท/วัน หรือภายในวงเงินที่ธนาคารอนุมัติและ/หรือตกลงกับบริษัทผู้รับชำระเงิน
(8) ผู้ใช้บริการเฉพาะบุคคลธรรมดาที่ได้มีการลงทะเบียนเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุนไว้ในระบบแล้วสามารถทำรายการซื้อ-ขายคืน และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนที่บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการกองทุนผู้ให้บริการไม่เกิน 5,000,000 บาท/วัน สำหรับรายการซื้อ และไม่เกิน 500,000 หน่วย/วัน สำหรับรายการขายคืน
(9) ผู้ใช้บริการสามารถส่งคำสั่งแจ้งระงับการโอนเงินที่มี ข้อตกลงล่วงหน้าผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุไว้ และธนาคารจะดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวทันที เว้นแต่รายการที่ผู้ใช้บริการแจ้งระงับการโอนเงินไม่สามารถดำเนินการได้ ธนาคารจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ โดยธนาคารจะรับผิดต่อผู้ใช้บริการหากไม่ดำเนินการระงับการโอนเงินให้เสร็จ สิ้นภายในระยะเวลาที่ระบุในข้อนี้และเกิดรายการโอนเงินขึ้น ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยังคงต้องรับผิดชอบในธุรกรรมที่เกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารจะระงับ การโอนเงินโดยเสร็จสมบูรณ์
(10) ในการใช้บริการโอนเงินและบริการชำระค่าสินค้าและบริการ ผู้ใช้บริการจะรับผิดชอบในการระบุข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กรผู้รับชำระเงินด้วยตนเองและด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งยวดหากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น
(11) ในกรณีผู้ใช้บริการได้รับอนุมัติเพิ่มวงเงินการทำรายการต่อวัน ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการโอนเงิน และ/หรือทำรายการชำระสินค้าและบริการ ต่อวันได้สูงสุดภายในวงเงินที่ธนาคารอนุมัติ
 
การใช้บริการส่งคำสั่งโอนเงินต่างประเทศ
1. ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการโอนเงินต่างประเทศไปยังประเทศที่ธนาคารเปิดให้บริการ โดยผู้ใช้บริการต้องตรวจสอบเลขที่บัญชีผู้รับเงิน ชื่อผู้รับเงิน และข้อมูลอื่นของผู้รับเงินให้ถูกต้อง รวมทั้งจำนวนเงินที่ทำรายการจะต้องไม่เกินกว่าจำนวนเงินสูงสุดตามที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการทำรายการจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดในขณะนั้น ซึ่งปรากฏในหน้าจอการทำรายการและยืนยันโดยผู้ใช้บริการ
2. ช่องทางการทำรายการ
(1) โอนเงินผ่าน Swift: รายการที่ทำในวันทำการธนาคาร ระหว่างเวลา 8.30 – 16.30 น. ธนาคารจะดำเนินการโอนเงินในวันเดียวกับวันที่ทำรายการ สำหรับรายการที่ทำในช่วงเวลาอื่น หรือรายการที่ทำในวันหยุดทำการธนาคาร ธนาคารจะดำเนินการโอนเงินในวันทำการธนาคารถัดไป
(2) โอนเงินผ่าน Global Transfer: ธนาคารจะดำเนินการโอนเงินให้แบบมีผลทันที (Real Time)
(หมายเหตุ: การโอนเงินไปประเทศ สปป. ลาว สามารถทำรายการได้เฉพาะในวันทำการธนาคาร ระหว่างเวลา 8.30 – 15.00 น. เท่านั้น)
3. ธนาคารจะมีการเปิดเผย และ/หรือส่งข้อมูลที่จำเป็นของผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขบัญชี ให้กับผู้ให้บริการระบบโอนเงินต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และ/หรือในต่างประเทศ ผู้ให้บริการระบบสวิตชิ่งในประเทศไทย และ/หรือในต่างประเทศ และ/หรือธนาคารต่างประเทศ และ/หรือผู้รับปลายทางเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเงินโอนระหว่างประเทศ และ/หรือให้การบริการของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีของผู้ใช้บริการ
4. ธนาคารมีสิทธิปฏิเสธรายการโอนเงิน หรือดำเนินการอื่นใดตามที่ธนาคารเห็นสมควร หากธนาคารสงสัยว่าธุรกรรมดังกล่าวอาจผิดกฎหมาย หรืออาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือการจัดหาเงินทุนสำหรับกิจกรรมการก่อการร้าย หรือการทำธุรกรรมจัดทำขึ้นโดยไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ ในกรณีดังกล่าวผู้ใช้บริการจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อธนาคารได้
5. อัตราแลกเปลี่ยนที่จะใช้สำหรับการโอนเงินต่างประเทศ ธนาคารจะใช้อัตราอ้างอิงแบบ Selling Rate ของธนาคาร ซึ่งจะแสดง ณ ขณะที่ทำรายการ ยกเว้นรายการโอนเงินผ่าน Swift ที่ธนาคารได้รับนอกช่วงเวลา 8.30 -16.30 น. หรือได้รับในวันหยุดทำการธนาคาร ธนาคารจะใช้อัตราอ้างอิงแบบ Selling Rate รอบแรกที่ธนาคารประกาศในวันทำการธนาคารถัดไป
6. การส่งคำสั่งโอนเงินผ่าน Swift ผู้ใช้บริการจะต้องส่งเอกสารเกี่ยวกับการโอนเงิน (ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย) ให้แก่ธนาคารผ่านทางอีเมลล์ : fxrmt@krungsri.com และ OPS_FRO_TBRS@krungsri.com หรือช่องทางอื่นใดที่ธนาคารกำหนด เพื่อให้ธนาคารทำการตรวจสอบก่อนทำรายการก่อนทุกครั้ง
7. ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะของรายการโอนเงินต่างประเทศผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้ตลอดเวลา
8. จำนวนเงินโอนต่อรายการ
(1) รายการโอนเงินผ่าน Swift แต่ละรายการ จะต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ (USD) หรือเทียบเท่า แต่ต้องไม่เกิน 20,000 เหรียญสหรัฐ (USD) หรือเทียบเท่า
(2) รายการโอนเงินผ่าน Global Transfer แต่ละรายการ จะต้องมีจำนวนไม่เกิน 20,000 เหรียญสหรัฐ (USD) หรือเทียบเท่า ยกเว้นการโอนเงินไปประเทศ สปป.ลาว ไปที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขานครหลวงเวียงจันทน์ ทำรายการได้ไม่เกิน 10,000 เหรียญสหรัฐ (USD) สำหรับสกุลเงิน USD และไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับสกุลเงิน THB และการโอนเงินไปที่ Lao Development Bank ทำรายการได้ไม่เกิน 20,000 เหรียญสหรัฐ (USD) หรือเทียบเท่า
9. จำนวนเงินโอนต่อวันผ่าน Swift และ Global Transfer รวมกันแล้วต้องมีจำนวนไม่เกิน 50,000 เหรียญสหรัฐ (USD) หรือเทียบเท่า
10. ธนาคารไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย ความล่าช้า ข้อผิดพลาดในการโอนเงิน เว้นแต่เกิดจากการจงใจกระทำผิดของธนาคารหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และในกรณีดังกล่าว ธนาคารไม่ต้องรับผิดเกินกว่าจำนวนเงินที่โอน นอกจากนี้ ธนาคารจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย ความล่าช้า และค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัย ปัญหาทางเทคนิคของระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบสื่อสาร การได้รับข้อมูลในคำสั่งโอนเงินที่ไม่ถูกต้องจากผู้ใช้บริการ ความผิดพลาดของธนาคารผู้รับปลายทาง ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน หรือโดยกฎหมายหรือข้อบังคับของธนาคารผู้รับปลายทางหรือประเทศที่ธนาคารผู้รับปลายทางนั้นตั้งอยู่ หรือจากการถูกระงับหรือยึดโดยผู้มีอำนาจหรือบุคคลในประเทศนั้นๆ
11. ในกรณีที่คำสั่งโอนเงินถูกส่งออกไปยังธนาคารผู้รับปลายทางแล้วแต่คำสั่งดังกล่าวถูกปฏิเสธจากธนาคารผู้รับปลายทางด้วยสาเหตุที่ไม่ได้เป็นความผิดของทางธนาคารเช่นข้อมูลในคำสั่งโอนเงินผิดพลาด หรือข้อมูลเลขที่บัญชีผู้รับเงินผิดพลาดเป็นต้น ทางธนาคารจะทำการโอนเงินคืนเข้าบัญชีของผู้ใช้บริการตามจำนวนเงินที่โอนโดยไม่รวมค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ทางธนาคารจะใช้อัตราอ้างอิงแบบ Buying Rate ณ เวลานั้น
12. ผู้ใช้บริการรับทราบ ช่วงเวลาการรับเงินโอนไปต่างประเทศขึ้นอยู่กับความแตกต่างทางด้านเวลา (Time Zone) และเวลาทำการของระบบการโอนเงินของธนาคารในแต่ละประเทศ
การใช้บริการโอนเงินต่างธนาคารแบบเงินเข้าบัญชีวันทำการถัดไป (SMART Next Day)
1. ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการโอนเงินได้ภายในวงเงินสูงสุดเมื่อรวมกับบริการโอนเงินต่างธนาคารในข้อ 2 (4) แล้ว ไม่เกิน 5,000,000 บาท/วัน
2. ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการได้ทุกวันตลอดยี่สิบสี่ (24) ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีและโอนเงินเฉพาะวันทำการธนาคารเท่านั้น
3. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการทำรายการในวันทำการก่อนเวลา 9.00 น. ธนาคารจะหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการในวันดังกล่าวทันทีหลังจากที่ผู้ใช้บริการทำรายการสำเร็จ แต่หากผู้ใช้บริการทำรายการโอนเงินหลังเวลา 9.00 น. ธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการในวันทำการถัดไป และในกรณีที่ผู้ใช้บริการทำการโอนเงินในวันหยุดทำการของธนาคาร ธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการในวันทำการแรกถัดจากวันหยุดทำการของธนาคารดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้รับโอนจะได้รับเงินที่โอนในวันทำการถัดจากวันที่ธนาคารหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการสำเร็จ โดยผู้ใช้บริการสามารถติดตาม เรียกดู หรือสั่งพิมพ์ข้อมูลหรือสถานะที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการโอนเงินได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด
4. ผู้ใช้บริการสามารถตั้งรายการโอนเงินต่างธนาคารแบบเงินเข้าบัญชีวันทำการถัดไป (SMART Next Day) ล่วงหน้าได้ ไม่เกินหกสิบ (60) วัน นับจากวันที่ทำรายการดังกล่าว โดยธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการในวันทำการก่อนวันที่ ผู้รับเงินจะได้รับเงินที่โอนทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถส่งคำสั่งยกเลิกรายการโอนเงินต่างธนาคารแบบเงินเข้าบัญชีวันทำการถัดไป (SMART Next Day) ได้ก่อนเวลาที่ธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ธนาคารหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการแล้ว ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถยกเลิกการทำรายการโอนเงินได้
5. ในกรณีที่ธนาคารไม่สามารถทำรายการโอนเงินให้แก่ผู้รับโอนได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ธนาคารจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบในวันทำการถัดจากวันที่ธนาคารทำการหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการ และธนาคารจะคืนเงินให้แก่ผู้ใช้บริการโดยโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ใช้บริการในวันทำการดังกล่าว โดยไม่มีดอกเบี้ยและไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ธนาคารได้หักจากบัญชีของผู้ใช้บริการไปล่วงหน้าแล้ว
 
การใช้บริการโอนเงินแบบชุดข้อมูล (Group Transfer)
1. ผู้ใช้บริการสามารถโอนเงินแบบชุดข้อมูลไปยังบัญชีเงินเดือน (Bulk Transfer for Payroll) และการชำระเงินให้กับคู่ค้าภายในธนาคาร (Direct Credit)
2. ในการเพิ่มกลุ่มชุดข้อมูล (Group Transfer) ผู้ใช้บริการต้องเพิ่มบัญชีในกลุ่ม โดยอัพโหลดข้อมูลตามรูปแบบไฟล์ที่ธนาคารกำหนด หรือทำการบันทึกหมายเลขบัญชีในกลุ่ม โดยธนาคารจะถือว่ากลุ่มชุดข้อมูลที่เพิ่มจะมีผลสมบูรณ์เมื่อผู้ใช้บริการได้ทำตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนดครบถ้วน
 
การใช้บริการอายัดเช็ค/บัญชี/บัตรเดบิต
1. ผู้ใช้บริการสามารถอายัดเช็คผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้ เว้นแต่การอายัดเช็คที่อยู่ในกระบวนการที่ธนาคารไม่สามารถระงับการจ่ายเงินได้ ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด
2. ผู้ใช้บริการสามารถอายัดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน ที่ผูกอยู่กับกรุงศรีบิซออนไลน์ รวมทั้งอายัดบัตร KRUNGSRI ATM หรือบัตร KRUNGSRI VISA Debit ที่ผูกอยู่กับบัญชีเงินฝากดังกล่าวผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้ตามขั้นตอนและวิธี การที่ธนาคารกำหนด โดยการอายัดจะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้รับการยืนยันจากธนาคาร ผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยังคงต้องรับผิดชอบในธุรกรรมที่เกิดขึ้นก่อนการอายัดจะมีผลสมบูรณ์ นอกจากนี้ การอายัดบัญชีเงินฝากจะมีผลทำให้รายการโอนเงินที่มีข้อตกลงล่วงหน้าทั้งหมด ภายใต้บัญชีเงินฝากที่ถูกอายัดไม่สามารถทำรายการได้
การใช้บริการตรวจสอบและเรียกดูรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีบัตรเครดิต
1. ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบและเรียกดูรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีบัตรเครดิตได้เฉพาะบัตรเครดิตในเครือ KRUNGSRI Group ที่เป็นบัตรหลักและผู้ใช้บริการเพิ่มรายการบัตรเครดิตดังกล่าวผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์แล้วเท่านั้น (ยกเว้นบัตรเครดิตนิติบุคคล และบัตร Fleet Card)
2. ในการเพิ่มรายการบัตรเครดิต ผู้ใช้บริการต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อยืนยันความมีตัวตนของผู้ใช้บริการให้ครบถ้วนถูกต้อง เช่น หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อเรียกแทนบัญชี ชื่อ-นามสกุล และวันเดือนปีเกิดของผู้ใช้บริการ หรือข้อมูลอื่นที่ธนาคารกำหนด และเนื่องจากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการถือเป็นข้อมูลที่สำคัญ หากผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวัง หรือประมาทเลินเล่อ จนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะกระทำโดยสุจริตหรือไม่ก็ตาม นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเข้าใช้บริการนี้ และเป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการได้รับความเสียหายไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบแต่ประการใด
3. ผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกการใช้บริการนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยทำรายการยกเลิกผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้ทุกวัน ตลอดยี่สิบสี่ (24) ชั่วโมง
4. เนื่องจากธนาคารไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการบัตรเครดิต และรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีบัตรเครดิตไม่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของธนาคาร หากผู้ใช้บริการพบว่า มีรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีบัตรเครดิตรายการใดผิดพลาดหรือไม่ถูกต้อง ผู้ใช้บริการจะต้องติดต่อกับบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตโดยตรง และจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบแต่ประการใด
5. การให้บริการของธนาคารตามข้อนี้ใช้เพื่อประโยชน์และเป็นการอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบรายการซื้อสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิตของผู้ใช้บริการเท่านั้น ผู้ใช้บริการไม่สามารถนำเอกสารที่ได้รับจากบริการนี้ไปชำระเงินค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตได้
6. ธนาคารมีสิทธิที่จะยกเลิกการให้บริการนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือยกเลิกการให้บริการนี้กับบัตรเครดิตบัตรใดบัตรหนึ่ง หรือเฉพาะแต่ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใดรายหนึ่งเมื่อใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ
 
การใช้บริการแจ้งเตือนข้อมูลบัญชี (Push Notification)
1. ผู้ใช้บริการจะได้รับการแจ้งเตือนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีที่ใช้บริการ เช่น ข้อมูลเช็ค ข้อมูลวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี ข้อมูลรายการเงินเข้า-ออก หรือกำหนดการชำระเงินล่วงหน้า โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถตั้งค่าเพื่อปิดการแจ้งเตือนดังกล่าวผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้หากไม่ประสงค์จะได้รับการแจ้งเตือน
2. ผู้ใช้บริการรับทราบว่าข้อมูลที่ธนาคารส่งแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการเป็นข้อมูลในขณะที่ธนาคารทำการแจ้งเตือนเท่านั้น ผู้ใช้บริการจะต้องตรวจสอบข้อมูลรายการ เคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝาก (Bank Statement) หรือเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรม การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝาก หรือการใช้วงเงิน สินเชื่อ ผ่านช่องทางที่ธนาคารให้บริการด้วยตนเอง เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
 
การใช้บริการขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต
1. ผู้ใช้บริการรับทราบว่า การขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ ถือเป็นการสมัครใจทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้บริการจะปฏิเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของข้อความใดที่ผู้ใช้บริการได้แสดงความจำนง ยินยอมและส่งผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ เพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มิได้
2. ผู้ใช้บริการรับทราบว่า การขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ จะมีผลผูกพันเสมือนการยื่นคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อให้ไว้ต่อ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตทุกประการ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ที่หมายเลข 02-643-1250 ได้ในเวลาทำการ
บริการขอให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกัน (Krungsri e-Guarantee)
1. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์
(1) ผู้ขอได้ขอให้ธนาคารดำเนินการออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อวางเป็นหลักประกันการการชำระหนี้และ/หรือ การปฏิบัติตามสัญญาตามข้อมูลที่ผู้ขอได้แจ้งให้ธนาคารทราบ และนำส่งให้ธนาคารผ่านระบบ LG อิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ขอและ/หรือลูกหนี้ รับทราบและยินยอมตามข้อความทั้งหมดของหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว พร้อมทั้งตกลงรับผิดชอบและ/หรือชำระหนี้ อันเกิดจากการค้ำประกันทุกรายการที่ธนาคารดำเนินการตามที่ได้รับแจ้งจากผู้ขอผ่านระบบ LG อิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ขอตกลง และยอมรับว่าข้อมูลและหนังสือค้ำประกันที่ได้ออกและมีการรับส่งระหว่างผู้รับประโยชน์และธนาคารผ่านทางระบบ LG อิเล็กทรอนิกส์ทุกฉบับและทุกจำนวนนั้นเป็นการออกหนังสือค้ำประกันตามความประสงค์ของผู้ขอโดยเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ขอที่ได้ลงทะเบียนไว้ในระบบ LG อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายได้แม้ว่าข้อมูล และหนังสือ ค้ำประกันดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ตาม
(2) ผู้ขอตกลงให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามจำนวน และกำหนดระยะเวลาการค้ำประกันที่ธนาคารได้รับแจ้งจากผู้ขอผ่านระบบ LG อิเล็กทรอนิกส์จนกว่าผู้รับประโยชน์จะแจ้งยกเลิกความผูกพันตามภาระการค้ำประกันมายังธนาคาร รวมทั้งยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิปฏิเสธการค้ำประกันรายการใดก็ได้
(3) ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบการติดต่อสื่อสารระหว่างธนาคารและผู้รับประโยชน์ หรือระบบไฟฟ้า ระบบการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม หรือระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกันของธนาคารตามที่ระบุไว้ในคำขอฉบับนี้ ชำรุด ขัดข้อง อยู่ระหว่างการซ่อมแซม หรือปิดระบบชั่วคราวเพื่อการบำรุงรักษา หรือมีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุอื่นใดที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร เป็นเหตุให้ธนาคารไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับการค้ำประกันได้ ผู้ขอตกลงจะไม่ยกเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดแต่อย่างใด
(4) ผู้ขอตกลงชำระค่าธรรมเนียมการออกหนังสือค้ำประกัน ค่าบริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ค่าอากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใดๆ เกี่ยวกับการค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวให้แก่ธนาคารตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดจนกว่า ผู้รับประโยชน์จะแจ้งยกเลิกความผูกพันตามภาระการค้ำประกัน หรือแจ้งยกเลิกการค้ำประกันให้แก่ธนาคาร กรณีที่ผู้ขอค้างชำระค่าธรรมเนียม การออกหนังสือค้ำประกัน ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายที่กล่าวข้างต้น ผู้ขอตกลงยินยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดที่ธนาคารประกาศ และใช้เรียกเก็บจากลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขนับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้แก่ ธนาคารครบถ้วน ในกรณีที่หนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกตามคำขอฉบับนี้ไม่มีกำหนดระยะเวลา หรือมีกำหนดระยะเวลา แต่พ้นกำหนดระยะเวลานั้นแล้ว หากผู้รับประโยชน์ยังไม่ได้แจ้งยกเลิกความผูกพันตามภาระการค้ำประกัน หรือแจ้งยกเลิกการค้ำประกันให้แก่ธนาคาร ผู้ขอยินยอมชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายใดๆ เกี่ยวกับการออกหนังสือค้ำประกันให้แก่ธนาคารตามระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดจนกว่าผู้รับประโยชน์ได้แจ้งยกเลิกความผูกพันตามภาระการค้ำประกัน หรือแจ้งยกเลิกการค้ำประกันให้แก่ธนาคารแล้ว ทั้งนี้ ผู้ขอรับทราบและยอมรับว่าค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายดังกล่าวธนาคารมีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้อง บอกกล่าวล่วงหน้าหรือชี้แจงเหตุต่อผู้ขอแต่อย่างใด และผู้ขอตกลงชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายให้แก่ธนาคารในอัตรา ที่เปลี่ยนแปลงนั้นโดยจะไม่โต้แย้งคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์ได้แจ้งยกเลิกความผูกพันตามภาระการค้ำประกัน หรือแจ้งยกเลิกการค้ำประกันให้แก่ธนาคารก่อนกำหนดเวลาที่ธนาคารได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ผู้ขอรับทราบว่าผู้ขอไม่มีสิทธิได้รับคืนค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายใดๆ จากธนาคาร อนึ่ง ผู้ขอรับทราบว่า ธนาคารมีสิทธิที่จะไม่เข้าทำการค้ำประกันผู้ขอและ/หรือลูกหนี้ตามข้อมูลที่ผู้ขอได้แจ้งให้ธนาคารทราบ และนำส่งให้ธนาคารผ่านระบบ LG อิเล็กทรอนิกส์ หากผู้ขอค้างชำระเงินค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายตามที่กล่าวข้างต้น
(5) ในกรณีที่ผู้ขอมีความประสงค์จะต่ออายุหนังสือค้ำประกัน หรือเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญประการอื่นของหนังสือค้ำประกัน ที่ธนาคารออกตามคำขอฉบับนี้ ผู้ขอตกลงยินยอมเสียค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใดๆ ตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
(6) ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์เรียกร้องให้ธนาคารชำระเงินโดยอ้างสิทธิตามหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ธนาคารออก ตามคำขอฉบับนี้ ผู้ขอตกลงให้อยู่ในดุลพินิจของธนาคารที่จะชำระเงินตามที่ถูกเรียกร้องได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ขอและ/หรือลูกหนี้ทราบก่อน หรือไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากผู้ขอและ/หรือลูกหนี้ก่อน โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ขอและ/หรือลูกหนี้ยังมีข้อต่อสู้หรือได้แจ้งให้ธนาคารระงับ หรือชะลอการชำระเงินตามที่ถูกผู้รับประโยชน์เรียกร้องหรือไม่ก็ตาม หากผู้ขอและ/หรือลูกหนี้และ/หรือธนาคารมีข้อต่อสู้ใดๆ กับ ผู้รับประโยชน์ รวมถึงข้อต่อสู้เกี่ยวกับความสมบูรณ์ ความถูกต้อง และการมีผลใช้บังคับของข้อความในหนังสือค้ำประกัน หรือข้อต่อสู้ใดๆ ตามกฎหมายให้ถือว่าเป็นสิทธิ และดุลพินิจของธนาคารแต่เพียงผู้เดียวที่จะยกข้อต่อสู้ดังกล่าวขึ้นต่อสู้หรือไม่ก็ได้ โดยผู้ขอตกลงสละสิทธิที่จะโต้แย้งหรือต่อสู้ใดๆ กับธนาคารด้วยเหตุที่ธนาคารไม่ยกข้อต่อสู้นั้น ทั้งนี้ เมื่อธนาคารได้ชำระเงินไปตามคำเรียกร้องของผู้รับประโยชน์ไม่ว่าจะชำระเต็มจำนวน หรือบางส่วนไม่ว่าจะชำระดอกเบี้ยด้วยหรือไม่ก็ตาม ผู้ขอตกลงชำระเงินคืนให้แก่ธนาคาร พร้อมด้วยค่าเสียหาย ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย และภาระหนี้ใดๆ ของผู้ขอที่เกี่ยวกับหนังสือค้ำประกันนี้พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดที่ธนาคารประกาศและเรียกเก็บจากลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขคำนวณนับแต่วันที่ธนาคารได้ชำระเงินจนถึงวันที่ธนาคารได้รับชำระคืนเสร็จสิ้น หากผู้ขอได้รับความเสียหายจากการถือปฏิบัติ หรือการบังคับตามข้อตกลงนี้ ผู้ขอจะไปเรียกร้องว่ากล่าวเอากับผู้รับประโยชน์หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากโดยผู้ขอยอมสละสิทธิที่จะเรียกร้องใดๆ จากธนาคารทั้งสิ้น
(7) ในกรณีที่ผู้ขอไม่ชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าใช้จ่าย และ/หรือภาระหนี้ใดๆ ของผู้ขอตามคำขอฉบับนี้คืนให้แก่ธนาคารจนครบถ้วน ผู้ขอยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่กล่าวข้างต้น หรือบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอื่นใดที่ผู้ขอมีอยู่กับธนาคาร หรือ หักกลบลบหนี้กับเงินใดๆ ที่ธนาคารพึงต้องชำระให้แก่ผู้ขอเพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าใช้จ่ายและ/หรือภาระหนี้ใดๆ ของผู้ขอที่ค้างชำระอยู่ตามคำขอฉบับนี้ทั้งหมด หรือแต่บางส่วนได้ทันทีตามที่ธนาคารเห็นสมควรโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ขอทราบ และในกรณีที่เงินใน บัญชีทุกประเภท หรือเงินที่ธนาคารต้องจ่ายให้ผู้ขอมีไม่เพียงพอให้หักชำระ ผู้ขอยินยอมให้ธนาคารนำค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าใช้จ่าย และ/หรือภาระหนี้ใดๆ ของผู้ขอที่ต้องชำระให้แก่ธนาคารไปลงในรายการบัญชีกระแสรายวันของผู้ขอที่มีอยู่กับธนาคารเพื่อให้เป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ขอจะมีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารหรือไม่ก็ตาม และผู้ขอยินยอมเสียดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารในอัตราที่ระบุไว้ตามคำขอเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีแล้วแต่กรณี
(8) กรณีที่ได้มีการมอบหลักประกันให้ไว้แก่ธนาคารเพื่อเป็นประกันการที่ธนาคารได้ออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามคำขอฉบับนี้ ผู้ขอตกลงและรับทราบว่าหากต่อไปภายหน้าธนาคารพิจารณาเห็นว่าหลักประกันที่ได้มอบให้ไว้แก่ธนาคารมีมูลค่าลดลง ไม่ครอบคลุมวงเงินความรับผิด หรือภาระหนี้ทั้งหมดที่ผู้ขอมีกับธนาคาร เนื่องจากการลดของราคาประเมินทรัพย์สินที่เป็นประกันก็ดี หรือ การที่ธนาคารได้ยินยอมให้ปลดหลักประกันบางส่วนก็ดี ผู้ขอตกลงนำทรัพย์สินอื่นที่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารมาวางเป็นหลักประกันเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ทั้งหมดให้แก่ธนาคารตามที่ธนาคารได้แจ้งให้ผู้ขอทราบ
(9) กรณีดังต่อไปนี้ ผู้ขอตกลงยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิที่จะระงับ และ/หรือเปลี่ยนแปลง และ/หรือยกเลิกการให้บริการออกหนังสือ ค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนเมื่อใดก็ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร โดยธนาคารจะแจ้งให้ผู้ขอทราบ ทั้งนี้ ผู้ขอตกลงยอมรับว่าธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการดำเนินการตามข้อนี้
(9.1.1) ข้อมูล รายละเอียด คำรับรองหรือคำยืนยันใดๆ ที่ผู้ขอให้ไว้แก่ธนาคารไม่เป็นความจริง ไม่ถูกต้อง หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ
(9.1.2) ผู้ขอปฏิบัติผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด ซึ่งรวมถึงการไม่ชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าใช้จ่าย ค่าปรับ ค่าภาษีอากร และภาระหนี้ใดๆที่เกิดขึ้นตามคำขอฉบับนี้ด้วย
(9.1.3) ผู้ขอมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้นอันทำให้ธนาคารเห็นว่าจะมีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ กรือความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอ หรือผู้ขอเสียชีวิต (กรณีผู้ขอเป็นบุคคลธรรมดา) หรือผู้บริหารของผู้ขอเสียชีวิต (กรณีผู้ขอเป็นนิติบุคคล) หรือ ผู้ขอเลิกกิจการ ผู้ขอถูกร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ถูกฟ้องล้มละลาย ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ถูกเพิกถอนทะเบียน หรือถูกระงับไม่ให้ดำเนินธุรกิจ หรือ มีการชำระบัญชี
(9.1.4) ธนาคารไม่สามารถหักเงินเพื่อดำเนินการตามข้อกำหนด และเงื่อนไขของคำขอฉบับนี้
(9.1.5) ธนาคารต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง และ/หรือการขอความร่วมมือของศาล หรือผู้มีอำนาจ ตามกฏหมาย หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลธนาคาร
(10) ผู้ขอตกลงยินยอมให้ธนาคารโอนสิทธิ และหน้าที่ตามคำขอฉบับนี้ รวมทั้งโอนสิทธิจำนอง จำนำ ค้ำประกัน หรือสิทธิในหลักประกันอื่นใดไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วนให้แก่บุคคลอื่นเมื่อใดก็ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร โดยธนาคารเพียงแต่บอกกล่าวให้ผู้ขอทราบ
(11) ผู้ขอตกลงยินยอมให้ธนาคารเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ของผู้ขอตามคำขอฉบับนี้ สัญญาหลักประกัน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องตามคำขอฉบับนี้ให้แก่ผู้รับโอนสิทธิของธนาคาร หรือบุคคลอื่นได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร หรือเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ขอในการที่จะได้รับข้อเสนอเกี่ยวกับสินเชื่อหรือบริการต่างๆ
(12) ผู้ขอตกลงผูกพันตามข้อกำหนด และเงื่อนไขของคำขอฉบับนี้ทุกประการ และตกลงยินยอมให้ถือว่าภาระหนี้สินอันเกิดจาก การขอให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ตามคำขอฉบับนี้เป็นภาระหนี้สินที่ผู้ขอจะต้องรับผิดต่อธนาคารจนกว่าธนาคารจะได้รับชำระหนี้จนเสร็จสิ้น
(13) บรรดาหนังสือติดต่อ ทวงถาม และ/หรือหนังสือบอกกล่าวทั้งหลายที่ส่งให้แก่ผู้ขอเพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือบอกกล่าวบังคับจำนอง หรือเพื่อบังคับชำระหนี้เอาจากหลักประกัน (ถ้ามี) ไม่ว่าจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือไม่ลงทะเบียน หรือนำส่งโดยบุคคลใด ถ้าหากได้ส่งไปยังสถานที่อยู่ของผู้ขอตามที่ระบุไว้ในคำขอฉบับนี้ ไม่ว่าที่อยู่ดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงไปหรือถูกรื้อถอนไป โดยผู้ขอไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงหรือการรื้อถอนนั้นเป็นหนังสือต่อธนาคารก็ดี หรือส่งให้ไม่ได้เพราะหาสถานที่อยู่ที่ระบุไว้ข้างต้นนั้นไม่พบก็ดีให้ถือว่า ผู้ขอได้รับและทราบหนังสือติดต่อ ทวงถาม และ/หรือหนังสือบอกกล่าวของธนาคารแล้วโดยชอบ
2. การออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อหน่วยงานภาครัฐ ผ่านระบบ e-Government Procurement (“ระบบ e-GP”)
กรณีที่ผู้ขอได้ขอให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อวางค้ำประกันไว้ต่อส่วนราชการ องค์กรมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐ (หน่วยงานภาครัฐ”) ที่ดำเนินการภายใต้ระบบ e-GP รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการรับเงินค่าซื้อเอกสารประกวดราคา ทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ขอที่ได้ทำรายการผ่านระบบ e-GP นอกจากผู้ขอต้องผูกพันตามข้อกำหนด และเงื่อนไขดังกล่วในข้อ 1. แล้ว ผู้ขอตกลงผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขดังต่อไปนี้ด้วย
(1) ผู้ขอรับทราบและตกลงยอมรับว่า ธนาคารได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงการให้บริการออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งอาจมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงในอนาคต) กับกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้บริการในการวางหนังสือค้ำประกันภาครัฐ ด้วยระบบ e-GP ต่อหน่วยงานภาครัฐ ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กรมบัญชีกลางและ/หรือหน่วยงานภาครัฐกำหนด
(2) ในการออกหรือวางหนังสือค้ำประกันต่อหน่วยงานภาครัฐ ผู้ขอมีความประสงค์ให้ธนาคารออก หรือวางหนังสือค้ำประกัน โดยผ่านระบบ e-GP เพื่อค้ำประกันการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แก่หน่วยงานภาครัฐ โดยมีจำนวนเงินค้ำประกัน กำหนดระยะเวลาการค้ำประกัน และรายละเอียดอื่นๆ ตามที่ผู้ขอระบุในระบบ e-GP
(3) ผู้ขอรับทราบและตกลงว่าธนาคารมีดุลพินิจในการออก หรือวางหนังสือค้ำประกันให้แก่หน่วยงานภาครัฐไม่ว่าด้านรูปแบบ และ/หรือวัตถุประสงค์ในการออกหรือวางหนังสือค้ำประกัน รวมทั้งสามารถเปลี่ยนแปลงประเภทหนังสือค้ำประกันได้ โดยพิจารณาจากข้อมูล ที่ได้รับจากระบบ e-GP ได้ทันทีตลอดระยะเวลาที่บันทึกข้อตกลงระหว่างธนาคารและกรมบัญชีกลางใช้บังคับ โดยที่ผู้ขอไม่จำเป็นต้องแจ้งความประสงค์ขอให้ธนาคารออก หรือวางหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-GP อีกในแต่ละครั้ง และธนาคารไม่มีหน้าที่แจ้งการออกหรือวางหนังสือค้ำประกันให้แก่ผู้ขอในแต่ละครั้งเช่นกัน และผู้ขอไม่มีสิทธิปฏิเสธความรับผิดภายใต้หนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออกหรือวางให้แก่หน่วยงานภาครัฐ
(4) ผผู้ขอรับทราบและตกลงว่าหนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออก หรือวางให้แก่หน่วยงานภาครัฐนั้นจะอยู่ในรูปแบบข้อมูล ทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อธนาคารได้พิจารณาข้อมูลรายการของผู้ขอจากระบบ e-GP และยอมรับเข้าเป็นผู้ค้ำประกันให้แก่ผู้ขอแล้ว ธนาคารจะดำเนินการแจ้งการออก หรือวางหนังสือค้ำประกัน พร้อมลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของธนาคาร และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ e-GP โดยผู้ขอตกลงว่าหนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออกหรือวางต่อหน่วยงานภาครัฐทุกฉบับและทุกจำนวนนั้น ผู้ขอมีหน้าที่รับผิดชดใช้ให้แก่ธนาคารจนครบถ้วน
(5) ในกรณีที่ธนาคารออกหรือวางหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่มีกำหนดระยะเวลา ผู้ขอจะมีความผูกพันตลอดไปจนกว่าหน่วยงานภาครัฐมีหนังสือ หรือดำเนินการแจ้งผ่านระบบ e-GP เพื่อแสดงการยกเลิกภาระการค้ำประกัน และ/หรือความผูกพันตาม หนังสือค้ำประกันให้กับธนาคารจึงจะถือว่าภาระการค้ำประกันตามหนังสือค้ำประกันสิ้นสุด ดังนั้น ผู้ขอจะชำระค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือค้ำประกันให้แก่ธนาคารในอัตราตามที่ธนาคารกำหนดเรื่อยๆ ไปจนกว่าธนาคารจะพ้นจากภาระผูกตามหนังสือค้ำประกันตามที่กล่าว ทั้งนี้ โดยยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่ผู้ขอมีอยู่กับธนาคารเพื่อชำระค่าธรรมเนียมการออกหนังสือค้ำประกันและ/หรือค่าธรรมเนียมความผูกพันในการที่หนังสือค้ำประกันยังมีผลต่อไปจนกว่าหน่วยงานภาครัฐจะมีหนังสือหรือดำเนินการแจ้งธนาคาร ผ่านระบบ e-GP ว่าธนาคารหมดภาระผูกพันความรับผิดตามหนังสือค้ำประกันนั้นๆ แล้ว
3. การออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อกรมศุลกากร ผ่านระบบ Thai Customs Electronic System
กรณีที่ผู้ขอได้ขอให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อวางค้ำประกันค่าภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ตลอดจนค่าภาษี ค่าอากร ค่าธรรมเนียมตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ค่าภาษีอากรเพิ่ม เบี้ยปรับ และหนี้อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชำระ ค่าภาษี และรายได้อื่นๆ ที่กฏหมายเรียกเก็บพร้อมกับค่าอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร (“ค่าภาษีอากร”) ของผู้ขอ และ/หรือลูกหนี้ไว้ต่อ กรมศุลกากร นอกจากผู้ขอต้องผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่วในข้อ 1. แล้ว ผู้ขอตกลงผูกพัน และปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขดังต่อไปนี้ด้วย
(1) ผู้ขอรับทราบและตกลงยอมรับว่า ธนาคารได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงการให้บริการออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งอาจมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงในอนาคต) กับกรมศุลกากรเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้บริการในการวางหนังสือค้ำประกันค่าภาษีอากรของผู้ขอและ/หรือลูกหนี้ในการที่เป็นผู้นำเข้าสินค้า และส่งออกสินค้า ต่อกรมศุลกากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร (Thai Customs Electronic System) ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กรมศุลกากรกำหนด
(2) ในการออกหรือวางหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อกรมศุลการ ผู้ขอมีความประสงค์ให้ธนาคารออก หรือวางหนังสือค้ำประกันโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร (Thai Customs Electronic System) เพื่อค้ำประกันภาระค่าภาษีอากรที่อาจจะต้องชำระ หรือชำระเพิ่มแก่กรมศุลกากร โดยไม่มีกำหนดระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ธนาคารแจ้งการออก หรือวางหนังสือค้ำประกันเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร (Thai Customs Electronic System) เป็นต้นไป
(3) ผู้ขอรับทราบและตกลงว่าธนาคารมีดุลพินิจในการออกหรือวางหนังสือค้ำประกันให้แก่กรมศุลกากร โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับจากกรมศุลกากรได้ทันทีตลอดระยะเวลาที่บันทึกข้อตกลงระหว่างธนาคารและกรมศุลกากรใช้บังคับ โดยที่ผู้ขอไม่จำเป็นต้องแจ้งความประสงค์ขอให้ธนาคารออก หรือวางหนังสือค้ำประกันค่าภาษีอากรอีกในแต่ละครั้ง และธนาคารไม่มีหน้าที่แจ้งการออก หรือวางหนังสือค้ำประกันให้แก่ผู้ขอในแต่ละครั้งเช่นกัน และผู้ขอไม่มีสิทธิปฏิเสธความรับผิดภายใต้หนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออกหรือวางให้แก่กรมศุลกากร
(4) ผู้ขอรับทราบและตกลงว่าหนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออกหรือวางให้แก่กรมศุลกากรนั้นจะอยู่ในรูปแบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อธนาคารได้พิจารณาข้อมูลรายการของผู้ขอที่ได้รับจากกรมศุลกากร และยอมรับเข้าเป็นผู้ค้ำประกันให้แก่ผู้ขอแล้ว ธนาคารจะดำเนินการแจ้งการออกหรือวางหนังสือค้ำประกัน พร้อมลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของธนาคาร และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ อิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร (Thai Customs Electronic System) โดยผู้ขอตกลงว่าหนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออกหรือวางต่อกรมศุลกากรทุกฉบับ และทุกจำนวนนั้น ผู้ขอมีหน้าที่รับผิดชดใช้ให้แก่ธนาคารจนครบถ้วน
(5) เนื่องจากกรมศุลการกรได้วางระเบียบในการรับหนังสือค้ำประกันว่า หนังสือค้ำประกันของธนาคารจะต้องไม่มีกำหนดระยะเวลาครบกำหนด ดังนั้น ในกรณีที่ธนาคารออกหรือวางหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่มีกำหนดระยะเวลา ผู้ขอจะมี ความผูกพันตลอดไปจนกว่ากรมศุลกากรมีหนังสือหรือดำเนินการแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร (Thai Customs Electronic System) เพื่อแสดงการยกเลิกภาระการค้ำประกันและ/หรือความผูกพันตามหนังสือค้ำประกันให้กับธนาคารจึงจะถือว่าภาระการค้ำประกัน ตามหนังสือค้ำประกันสิ้นสุด ดังนั้น ผู้ขอจะชำระค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือค้ำประกันให้แก่ธนาคารในอัตราตามที่ธนาคารกำหนดเรื่อยๆ ไปจนกว่าธนาคารจะพ้นจากภาระผูกตามหนังสือค้ำประกันตามที่กล่าว ทั้งนี้ โดยยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่ผู้ขอมีอยู่กับธนาคารเพื่อชำระค่าธรรมเนียมการออกหนังสือค้ำประกันและ/หรือค่าธรรมเนียมความผูกพันในการที่หนังสือค้ำประกันยังมีผลต่อไปจนกว่ากรมศุลการจะมีหนังสือ หรือดำเนินการแจ้งธนาคารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร (Thai Customs Electronic System) ว่าธนาคารหมดภาระผูกพันความรับผิดตามหนังสือค้ำประกันนั้นๆ แล้ว
 
การใช้บริการ Krungsri Cashless Chain
1. ผู้ใช้บริการจะต้องยื่นคำขอใช้บริการ Krungsri Cashless Chain พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ธนาคารกำหนด
2. ผู้ใช้บริการจะสามารถใช้บริการนี้ได้ก็ต่อเมื่อ ธนาคารได้ทำการผูกบัญชีของผู้ใช้บริการกับบัญชีคู่ค้าของผู้ใช้บริการ และได้ทำการลงทะเบียนข้อมูลผู้ใช้บริการและคู่ค้าของผู้ใช้บริการในระบบของธนาคารเรียบร้อยแล้ว
3. ผู้ใช้บริการรับทราบว่า การขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือรายละเอียดใดๆ ตลอดจนยกเลิกการใช้บริการ Krungsri Cashless Chain จะมีผลต่อเมื่อผู้ใช้บริการดำเนินการตามวิธีการที่ธนาคารกำหนด และธนาคารได้ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบของธนาคารเรียบร้อยแล้ว
4. เงื่อนไขการใช้บริการในกรณีผู้ใช้บริการเป็นผู้โอนเงิน
(1) ใช้บริการสามารถทำรายการโอนเงินออกจากบัญชีได้เฉพาะบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน
(2) ผู้ใช้บริการต้องแสดง QR Code เพื่อให้ผู้รับเงินสามารถแจ้งรายการเรียกเก็บเงินไปยังผู้ชำระเงินได้โดยการสแกน QR Code โดยธนาคารไม่มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว
(3) ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการชำระสินค้าและบริการได้ไม่เกิน 5,000,000 บาท/วัน หรือภายในวงเงินสินเชื่อเบิกเงินเกินบัญชีที่ธนาคารอนุมัติ
(4) ในกรณีที่ผู้ใช้บริการได้รับแจ้งรายการเรียกเก็บเงิน ผู้ใช้บริการสามารถทำการชำระเงิน หรือจะไม่ดำเนินการใดๆ ก็ได้ โดยธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ต้องรับผิดชอบกับการดำเนินการหรือไม่ดำเนินการของผู้ใช้บริการ และในกรณีที่มีข้อความในรายการเรียกเก็บเงินทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความเสียหาย ผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องร่วมรับผิดชอบแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า ธนาคารเป็นเพียงผู้ให้บริการช่องทางการส่งรายการเรียกเก็บเงินเท่านั้น โดยธนาคารไม่ได้เป็นตัวแทนเรียกเก็บเงินหรือตัวแทนทวงถามหนี้ให้แก่ผู้ใช้บริการ
(5) ผู้ใช้บริการยินยอมให้ธนาคารติดต่อสอบถาม และ/หรือเปิดเผยรายละเอียดและข้อมูลการใช้บริการของผู้ใช้บริการกับธนาคาร ต่อบุคคล และ/หรือนิติบุคคลใดๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยธนาคารไม่ต้องขออนุญาตหรือได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการแต่อย่างใด ทั้งนี้ ให้ถือว่าความยินยอมนี้มีผลใช้บังคับตลอดไปแม้ว่าผู้ใช้บริการจะมิได้ใช้บริการ Krungsri Cashless Chain หรือมิได้ใช้บริการใดๆ กับธนาคารแล้วก็ตาม และจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเปิดเผยรายละเอียดและข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใดทั้งสิ้น
5. เงื่อนไขการใช้บริการในกรณีผู้ใช้บริการเป็นผู้รับเงิน
(1) ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ผู้ใช้บริการจะเป็นผู้แจ้งรายการเรียกเก็บเงินให้ผู้ชำระเงินทราบ และข้อความที่ประสงค์จะส่งถึงผู้ชำระเงิน (ถ้ามี) และเมื่อผู้ใช้บริการได้ส่งรายการเรียกเก็บเงินไปยังผู้ชำระเงินแล้ว ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการดังกล่าวได้ ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ธนาคารมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความผูกพันด้วยไม่ว่ากรณีใดๆ ดังนั้น หากมีการคืนหรือยกเลิกสินค้าหรือบริการ หลังจากที่ผู้ชำระเงินได้ชำระเงินหรือโอนเงินให้แก่ผู้ใช้บริการเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้บริการตกลงจะคืนเงินค่าสินค้าหรือบริการดังกล่าวให้แก่ผู้ชำระเงินเอง โดยธนาคารไม่ต้องรับชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น
(2) ผู้ใช้บริการรับรองว่า ผู้ใช้บริการเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินตามที่ระบุในรายการเรียกเก็บเงิน และในการส่งรายการเรียกเก็บเงินไปยังผู้ชำระเงิน ผู้ใช้บริการจะใช้ข้อความที่สุภาพ ไม่ผิดกฎหมายและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ชำระเงิน หากผู้ใช้บริการส่งรายการเรียกเก็บเงินไปยังผู้ชำระเงินแล้วทำให้ธนาคาร ผู้ชำระเงิน หรือบุคคลอื่นใดได้รับความเสียหาย ผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลนั้น โดยจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องร่วมรับผิดชอบแต่อย่างใด
(3) ผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าบริการและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการใช้บริการนี้ให้แก่ธนาคารตามอัตราที่ธนาคารประกาศกำหนด โดยยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่ผู้ใช้บริการสมัครใช้บริการ Krungsri Cashless Chain หรือบัญชีเงินฝากอื่นใดที่ผู้ใช้บริการมีอยู่กับธนาคารได้
ผู้ใช้บริการได้อ่านและเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กล่าวข้างต้นโดยตลอดแล้ว ตกลงรับผูกพันตามนี้ทุกประการ