|
1. |
บริการ Krungsri Biz Online ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "บริการกรุงศรีบิซออนไลน์" เป็นการให้บริการของธนาคารทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) เพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบถามยอดคงเหลือในบัญชี สอบถามรายการเคลื่อนไหวในบัญชี โอนเงินระหว่างบัญชีของตนเองภายในธนาคาร โอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่นภายในธนาคาร โอนเงินบุคคลอื่นต่างธนาคาร โอนเงินต่างประเทศ สอบถามสถานะเช็ค อายัดเช็ค ชำระค่าสินค้าหรือบริการ การขอออกหนังสือค้ำประกันของธนาคาร และให้บริการข้อมูลด้านธุรกิจการเงิน เป็นต้น |
2. |
บัญชีหลักและบัญชีรองของผู้ใช้บริการจะต้องมีชื่อเจ้าของบัญชีเป็นบุคคลเดียวกัน และต้องไม่เป็นบัญชีเงินฝากที่เปิดผ่านช่องทางออนไลน์หรือบัญชีเงินฝากประเภท “บัญชีร่วม” และบัญชี “เพื่อ” หรือ “โดย” |
3. |
ผู้ใช้บริการที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ สามารถสมัครบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร สาขาของธนาคาร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเลต ที่สามารถเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด โดยผู้ใช้บริการจะต้องกรอกข้อมูลการสมัครใช้บริการให้ครบถ้วนและถูกต้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะต้องเป็นหมายเลขเดียวกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผู้ใช้บริการแจ้งไว้กับธนาคารสำหรับบัญชีเงินฝากที่ผู้ใช้บริการนำมาผูกกับบริการนี้ โดยการสมัครจะมีผลสมบูรณ์เมื่อผู้ใช้บริการได้รับข้อความยืนยันการสมัครผ่าน E-mail Address หรือผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผู้ใช้บริการแจ้งไว้กับธนาคาร |
4. |
ผู้ใช้บริการจะต้องกำหนดรหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) รวมทั้งรหัสลับส่วนตัว (PIN) ด้วยตนเองเพื่อเข้าใช้งานระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ตามวิธีการและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด |
5. |
ผู้ใช้บริการสามารถเข้าสู่ระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคารโดยการใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) หรือผ่านแอปพลิเคชัน Krungsri Biz Online ของธนาคารที่ติดตั้งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ที่สามารถเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารได้ โดยการใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) และ/หรือ รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือโดยการใช้ลายนิ้วมือ/ใบหน้า ที่ผ่านระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แทนการใช้รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือผ่านช่องทางอื่นตามที่ธนาคารกำหนดในภายหน้าได้ |
6. |
ในการเข้าสู่ระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungsri Biz Online ที่ติดตั้งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต โดยการใช้ลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) แทนการใช้รหัสลับส่วนตัว (PIN) ผู้ใช้บริการต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขของระบบโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต รวมทั้งขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด |
7. |
ผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) และ/หรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) ได้ด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้ โดยดำเนินการตามวิธีการและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และตกลงให้รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) และลายนิ้วมือ/ใบหน้า ที่เปลี่ยนแปลงนั้น เป็นรหัสผ่านสำหรับการใช้บริการที่มีผลผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ ผู้ใช้บริการทราบดีว่ารหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) และลายนิ้วมือ/ใบหน้า เป็นข้อมูลลับเฉพาะซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษาไว้และมิให้บุคคลอื่นใดล่วงรู้โดยเด็ดขาดรวมทั้งธนาคาร |
8. |
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเข้าสู่ระบบกรุงศรีบิซออนไลน์โดยใช้รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ ลายนิ้วมือ/ใบหน้า(Fingerprint/Touch ID/Face ID) ผู้ใช้บริการจะต้องบันทึกรหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ ลายนิ้วมือ/ใบหน้า (Fingerprint/Touch ID/Face ID) ให้ถูกต้อง หากผู้ใช้บริการบันทึกข้อมูลผิดเกินกว่าจำนวนครั้งที่ธนาคารกำหนด ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถใช้บริการได้อีกต่อไป โดยผู้ใช้บริการต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด หรือติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนดต่อไป ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ได้เข้าใช้บริการเป็นเวลาเกินกว่าที่ธนาคารกำหนด ธนาคารจะระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราวจนกว่าผู้ใช้บริการจะติดต่อมายังธนาคาร |
9. |
ผู้ใช้บริการตกลงให้ธนาคารเปิดเผยหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผู้ใช้บริการให้ไว้กับธนาคารให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Mobile Operator) รวมถึงตกลงให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Mobile Operator) ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือดังกล่าวและเปิดเผยผลการตรวจสอบให้แก่ธนาคาร เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ |
10. |
กรณีที่เป็นการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungsri Biz Online ผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ใช้งานที่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้บริการแต่ละรายจะสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้งานในแอปพลิเคชัน Krungsri Biz Online ได้เพียง 1 บัญชี และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้งานกับแอปพลิเคชัน Krungsri Biz Online ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น ในกรณีที่ผู้ใช้บริการประสงค์จะเปลี่ยนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการของธนาคารภายในเวลาและจำนวนครั้งที่ธนาคารกำหนด รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การยืนยันการเปลี่ยนอุปกรณ์ การระบุข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการบนอุปกรณ์ใหม่ และการยกเลิกการใช้งานบนอุปกรณ์เดิม |
11. |
ในการทำธุรกรรมบางประเภทที่อาจเข้าเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ต้องมีขั้นตอนยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการผ่านช่องทางการให้บริการต่างๆ ของธนาคารก่อน โดยการใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบข้อมูลชีวมิติ (biometric comparison) รวมทั้งการนำเทคโนโลยี liveness detection มาใช้ตามความเหมาะสม เช่น ธุรกรรมโอนเงินที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการทำการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคารไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคารไม่สมบูรณ์หรือไม่เป็นปัจจุบัน ผู้ใช้บริการต้องไปยังสาขาธนาคารเพื่อปรับปรุงข้อมูลของผู้ใช้บริการเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารในครั้งต่อไปได้ ทั้งนี้ เงื่อนไขการทำธุรกรรมที่ต้องจัดให้มีการยืนยันตัวตนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด |
12. |
การกระทำการใดๆ ผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ หากกระทำโดยใช้รหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะใช้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนเงิน การชำระเงิน หรือใช้เพื่อทำรายการที่ไม่ใช่ธุรกรรมทางการเงิน เช่น การตรวจสอบยอดเงิน การตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี การให้ความยินยอมในเรื่องต่างๆ เช่น การให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลต่อบริษัทข้อมูลเครดิต การให้ความยินยอมในการนำเสนอสินค้าหรือบริการ เป็นต้น การรับรองความถูกต้องของเอกสาร หรือการสมัครใช้บริการสินเชื่อหรือบริการอื่นๆ และการกระทำดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอน วิธีการหรือเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดไว้ในคำแนะนำ คู่มือหรือเอกสารใดๆ เกี่ยวกับการใช้บริการ ผู้ใช้บริการยอมให้ถือว่าการกระทำนั้นมีผลสมบูรณ์นับตั้งแต่เวลาที่มีการยืนยันทำธุรกรรม รวมทั้งให้ถือว่าเป็นการที่ผู้ใช้บริการได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ไว้แก่ธนาคารเพื่อเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมผ่านบริการในครั้งนั้นๆ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องลงลายมือชื่อเป็นหลักฐานในเอกสารใดๆ อีก และตกลงให้สามารถใช้ข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นต้นฉบับเอกสารที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่าผู้ใช้บริการได้ทำธุรกรรมนั้นและใช้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ใช้บริการได้ และยินยอมรับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง โดยผู้ใช้บริการตกลงยอมรับและรับทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมด้วยตนเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดยืนยันเพิ่มเติม ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยความทุจริตของบุคคลภายนอกหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่ผู้ใช้บริการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำทุจริตดังกล่าว โดยธนาคาร/บริษัทในเครือ ไม่ต้องรับผิดชอบในข้อผิดพลาดหรือบกพร่อง หรือความเสียหายใดๆ อันอาจเกิดขึ้นและผู้ใช้บริการจะไม่นำไปเป็นข้ออ้างยืนยัน และ/หรือใช้เป็นหลักฐานโต้แย้งหรือฟ้องร้องต่อสู้กับธนาคาร/บริษัทในเครือแต่ประการใดทั้งสิ้น |
13. |
ในกรณีที่รหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการทำรายการ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ชำรุด สูญหาย หรือถูกโจรกรรม ผู้ใช้บริการต้องแจ้ง และ/หรือขอระงับธุรกรรม และ/หรือการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ และ/หรือ ขออายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือรหัสอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ทำรายการดังกล่าว ทันทีผ่าน Krungsri Call Center 1572 โดยธนาคารจะทำการระงับธุรกรรม และ/หรือการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ และ/หรืออายัด หรือระงับการใช้รหัสดังกล่าว และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ทำรายการทันทีที่ผู้ใช้บริการผ่านการตรวจสอบความเป็นเจ้าของบัญชีตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนดแล้ว ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยอมรับว่าการทำรายการใดๆ หรือการทำรายการด้วยรหัสประจำตัว (User ID) รหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือข้อมูลชีวมิติ (biometric data) หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการก่อนที่ธนาคารจะทำการระงับหรืออายัดนั้น ให้มีผลผูกพันผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบและยินยอมชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทุกประการ |
14. |
การกระทำใดๆ ผ่านบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ โดยใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) รหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) หรือ ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) ของผู้ใช้บริการ หรือรหัสอื่นใดที่ธนาคารกำหนด ผู้ใช้บริการยอมรับว่าเป็น การกระทำของผู้ใช้บริการเอง แม้ผู้ใช้บริการจะมิได้ทำลงด้วยตนเอง ธนาคารไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบแต่ประการใดอันเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เว้นแต่ความเสียหายดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของธนาคาร |
15. |
การทำรายการใดๆ ภายใต้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้ทำรายการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องครบถ้วน และผู้ใช้บริการจะได้รับข้อมูลแสดงผลว่าการทำรายการสำเร็จแล้ว พร้อมกับหมายเลขอ้างอิงการทำรายการ (Transaction Reference Number) โดยผู้ใช้บริการสามารถเรียกดูหรือตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมทางการเงิน (Report) ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด และผู้ใช้บริการยอมรับว่าบันทึก หลักฐาน หรือเอกสารใดๆ ก็ตามที่ธนาคารได้จัดทำขึ้นเนื่องจากการใช้บริการของผู้ใช้บริการนั้นมีความถูกต้อง และสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานยันผู้ใช้บริการในการพิสูจน์มูลหนี้ การหัก และ/หรือการโอนเงิน และ/หรือการใช้บริการใดๆ ได้โดยชอบ แม้ว่าข้อมูลนั้นจะเก็บรักษา และ/หรือรวบรวมไว้ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือในรูปแบบใดก็ตาม |
16. |
ผู้ใช้บริการยอมรับว่าบริการสั่งอายัดเช็คธนาคาร จะรับดำเนินการตามคำสั่งของผู้ใช้บริการให้โดยเร็ว แต่หากเช็คฉบับนั้นอยู่ในกระบวนการที่ธนาคารไม่สามารถระงับการจ่ายเงินได้ ผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบความเสียหายนั้น |
17. |
ผู้ใช้บริการสามารถอายัดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวันที่ผูกอยู่กับระบบกรุงศรีบิซออนไลน์ รวมทั้งอายัดบัตร KRUNGSRI ATM หรือบัตร KRUNGSRI VISA Debit ที่ผูกอยู่กับบัญชีเงินฝากดังกล่าวผ่านบริการนี้ได้ โดยการอายัดจะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้ปฎิบัติตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด และได้รับการยืนยันจากธนาคารผ่านระบบกรุงศรีบิซออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ผู้ใช้บริการยังคงต้องรับผิดชอบในธุรกรรมที่เกิดขึ้นก่อนการอายัดเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ การอายัดบัญชีเงินฝากจะมีผลทำให้รายการโอนเงินที่มีข้อตกลงล่วงหน้าทั้งหมดภายใต้บัญชีเงินฝากที่ถูกอายัดไม่สามารถทำรายการได้ |
18. |
ผู้ใช้บริการ สามารถเลือกรูปแบบการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ ได้ดังต่อไปนี้
(1) |
แบบ Dual Control ซึ่งเป็นการให้บริการแบบมีผู้ทำรายการ (Maker) และผู้อนุมัติรายการ (Approver) โดยผู้ใช้บริการจะต้องดำเนินการให้มีผู้แทนของผู้ใช้บริการทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระบบ (Business Admin) เพื่อจัดการด้านบัญชี และผู้ใช้งานระบบ (User) ตามขั้นตอนและรูปแบบที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงว่า การกระทำใดๆ ที่ทำผ่านผู้ทำรายการ (Maker) และได้รับอนุมัติจากผู้อนุมัติรายการ (Approver) ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะใช้เพื่อทำ
ธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวถูกต้องและมีผลผูกพันผู้ใช้บริการ
|
(2) |
แบบ Single Control ซึ่งเป็นการให้บริการแบบมีผู้ดำเนินการเพียงคนเดียว โดยผู้ใช้บริการจะต้องดำเนินการให้มีผู้แทนของผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำการผ่านบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ โดยใช้รหัสประจำตัว (User ID) และรหัสผ่าน (Password) หรือรหัสลับส่วนตัว (PIN) หรือ รหัส One Time Password (OTP) |
|
19. |
ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า ธนาคารสงวนสิทธิในการระงับการให้บริการหรือยกเลิกการให้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ หรือระงับการทำธุรกรรมผ่านกรุงศรีบิซออนไลน์ได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า ในกรณีที่ธนาคารมีเหตุจำเป็นเช่นในกรณีดังนี้ โดยผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ผู้ใช้บริการหรือบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น (ก) การให้บริการของธนาคารขัดต่อกฎ ระเบียบ คำสั่ง บทบัญญัติของกฎหมาย หรือขัดต่อหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงานของธนาคาร หรือ (ข) คำสั่งของผู้ใช้บริการมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ธนาคารกำหนด หรือผู้ใช้บริการมิได้จัดทำหรือส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องและจำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมตามที่ธนาคารร้องขอ หรือ (ค) ผู้ใช้บริการไม่มี หรือถูกระงับใช้วงเงินสินเชื่อกับธนาคาร หรือการโอนเงินจะเป็นเหตุให้ยอดเงินในบัญชีเกินกว่าวงเงินสินเชื่อที่ตกลงไว้กับธนาคาร หรือ (ง) บัญชีของผู้ใช้บริการหรือบัญชีที่รับโอนถูกระงับการใช้หรือยกเลิก หรือ (จ) ผู้ใช้บริการมียอดเงินคงเหลือที่ใช้ได้ในบัญชีไม่เพียงพอต่อการทำธุรกรรม หรือ (ฉ) ผู้ใช้บริการปฏิบัติผิดเงื่อนไข หรือข้อตกลงของธนาคาร หรืออยู่ในระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมาย หรือ (ช) มีเหตุอันควรสงสัยหรือเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเอกสารแสดงตนหรือเอกสารใดๆ ที่ผู้ใช้บริการได้ยื่นหรือแสดงต่อธนาคารไม่ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ตรงตามข้อเท็จจริง หรือผู้ใช้บริการเป็นบุคคลที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการกระทำที่เป็นความผิดตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของทางราชการ หรือบริการกรุงศรีบิซออนไลน์ หรือบัญชีที่ผู้ใช้บริการนำมาผูกกับบริการ ถูกนำไปใช้หรือมีข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายอื่นๆ หรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หรือ (ซ) ระบบใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการชำรุด ขัดข้อง อยู่ระหว่างการซ่อมแซม หรือปิดระบบชั่วคราว และธนาคารได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าถึงความขัดข้องในการทำธุรกรรม หรือได้แจ้งในขณะที่ทำธุรกรรม หรือ (ฌ) ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร |
20. |
ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบการติดต่อสื่อสารของธนาคารของผู้ใช้บริการ หรือของผู้ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) หรือของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Mobile Operator) และระบบไฟฟ้า ระบบการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม หรือระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการชำรุด ขัดข้อง อยู่ระหว่างการซ่อมแซม หรือปิดระบบชั่วคราวเพื่อบำรุงรักษา เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้บริการได้ ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่ยกเอาเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องให้ธนาคารรับผิดชอบแต่ประการใด |
21. |
ในกรณีพบข้อผิดพลาดใดๆ หรือข้อสงสัยใดๆ ในการใช้บริการ ผู้ใช้บริการต้องแจ้งให้ธนาคารทราบผ่าน Krungsri Call Center 1572 หรือช่องทางอื่นที่ธนาคารกำหนดโดยพลัน พร้อมด้วยข้อมูลอย่างน้อยดังนี้
(1) |
รหัสประจำตัว ( User ID ) ของผู้ใช้บริการ |
(2) |
วันและเวลาที่ทำรายการ |
(3) |
หมายเลขอ้างอิงการทำรายการ (Transaction Reference Number) |
(4) |
ประเภทรายการที่ใช้บริการ |
(5) |
เลขที่บัญชีที่โอนเงินออกและเลขที่บัญชีที่โอนเงินเข้า |
(6) |
จำนวนเงินที่ทำรายการ |
(7) |
ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น |
(8) |
สถานที่ติดต่อของผู้ใช้บริการหรือผู้แจ้ง (กรณีแตกต่างจากที่ได้ระบุไว้ในคำขอใช้บริการ) |
|
22. |
ภายหลังจากที่ธนาคารได้รับแจ้งข้อผิดพลาด หรือข้อสงสัยใดๆ ในการใช้บริการจากผู้ใช้บริการ ธนาคารจะทำการตรวจสอบข้อผิดพลาดโดยพิจารณาจากรายงาน ซึ่งถือเป็นหลักฐานของธนาคารประกอบกับบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการ และแจ้งความคืบหน้า รวมทั้งชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการ ตลอดจนกำหนดเวลาในการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ผู้ใช้บริการทราบ ภายในระยะเวลา เจ็ด (7) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
หากผลการตรวจสอบปรากฏว่าเกิดข้อผิดพลาด และธนาคารต้องมีการหัก หรือโอนเงิน หรือดำเนินการอย่างใดๆ กับบัญชีของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารดำเนินการดังกล่าวกับบัญชีทุกประเภทของผู้ใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคาร ตามข้อกำหนด เงื่อนไข และวิธีการที่ธนาคารกำหนดไว้ทั้งในขณะนี้และที่จะกำหนดขึ้นใหม่ในภายหน้าได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้แก่ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าแต่อย่างใด |
23. |
ผู้ใช้บริการยินยอมผูกพันตนและปฎิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ระเบียบ ตลอดจนคู่มือสำหรับการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ในแต่ละประเภทตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ซึ่งธนาคารได้ส่งหรือแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ หรือที่ธนาคารจะประกาศเพิ่มเติมต่อไปในภายหน้า โดยให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ |
24. |
ธนาคารมีสิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากทุกประเภทของผู้ใช้บริการ เพื่อชำระค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการและค่าใช้จ่ายใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ ตามอัตราหรือจำนวนที่ธนาคารกำหนดในขณะนี้หรือที่จะกำหนดใหม่ในภายหน้า หากเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการไม่มี หรือมีแต่ไม่เพียงพอที่จะให้ธนาคารหักชำระค่าใช้จ่ายเช่นว่านั้น หรือไม่เพียงพอให้ธนาคารดำเนินการให้บริการได้ ธนาคารมีสิทธิที่จะไม่ให้บริการในครั้งนั้นๆ ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังกล่าวได้โดยประกาศให้ทราบล่วงหน้า สามสิบ (30) วัน |
25. |
ผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ ได้โดยผ่านการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ หรือทำเป็นหนังสือมายังธนาคารตามแบบและวิธีการที่ธนาคารกำหนด อนึ่ง การปิดบัญชีหลักที่ขอใช้บริการจะมีผลเป็นการยกเลิกการใช้บริการด้วยหากบัญชีที่ผูกกับบริการกรุงศรีบิซออนไลน์มีเพียงบัญชีเดียว ทั้งนี้รายการคงค้างของคำสั่งการทำรายการหลังครบกำหนดที่กล่าวนั้นจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ |
26. |
ธนาคารอาจทำการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงการให้บริการ และจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านทางบริการกรุงศรีบิซออนไลน์หรือประกาศของธนาคารทุกครั้ง |
27. |
ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิแก้ไข เปลี่ยนแปลง ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มหรือลดการให้บริการเฉพาะบริการใดบริการหนึ่ง หรือยกเลิกการให้บริการทั้งหมดได้ โดยธนาคารจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าในระยะเวลาสิบห้า (15) วัน ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์การใช้บริการต่างๆ ของธนาคารที่เหมาะสม (เช่น เว็บไซต์ของธนาคาร ประกาศ ณ ที่ทำการของธนาคาร และ/หรือช่องทางอื่นๆ) เว้นแต่มีกรณีมีเหตุที่จำเป็นเพื่อป้องกันการทุจริต หรือกรณีผู้ใช้บริการผิดนัดชำระหนี้หรือผิดเงื่อนไขใดๆ ในสัญญาหรือข้อตกลงกับธนาคาร ธนาคารสามารถแจ้งการเปลี่ยนแปลงหรือแจ้งการดำเนินการให้ทราบภายหลังได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในกรณีที่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลให้ผู้ใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือมีภาระความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกการใช้บริการได้ |
28. |
เอกสารหรือหนังสือใดๆ ที่ธนาคารส่งไปยังผู้ใช้บริการตามที่อยู่หรือที่ทำงาน หรือสถานศึกษา หรือส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address) ที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งไว้ในคำขอใช้บริการหรือที่อยู่ที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ให้ถือว่าผู้ใช้บริการได้ทราบข้อความในเอกสาร หรือหนังสือนั้น ๆ แล้ว |
29. |
ผู้ใช้บริการยินยอมให้ธนาคารทำการเปิดเผย แลกเปลี่ยน ส่ง และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ หรือข้อมูลที่ผู้ใช้บริการให้ไว้กับธนาคารในการสมัครหรือใช้บริการนี้ ให้กับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ผู้ประมวลผลข้อมูลของธนาคาร ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของธนาคาร ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันในลักษณะ co-brand ซึ่งธนาคารจำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อให้ธนาคารสามารถให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ได้ รวมทั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ เพื่อป้องกันและตรวจสอบรายการธุรกรรมที่อาจจะเกิดการทุจริต เพื่อปรับปรุงบริการหรือผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารในการให้บริการ เพื่อสนับสนุนการให้บริการของธนาคาร เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการติดตามทวงถามหนี้ เพื่อประโยชน์ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อตรวจสอบรายการชำระเงินหรือรายการฝาก/ถอน/โอนเงิน (เฉพาะในกรณีที่มีการใช้บริการทางการเงิน) หรือเพื่อการพิสูจน์ตัวตนหรือยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการทางดิจิทัล ผ่าน National Digital ID Platform (NDID Platform) (เฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้บริการสมัครใช้บริการ NDID) |
30. |
ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ธนาคารจะรักษาข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้บริการและบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อันเนื่องมาจากการให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ไว้เป็นความลับ ในกรณีที่มีกฎหมาย ประกาศ หรือระเบียบของทางราชการ กำหนดให้ธนาคารต้องเปิดเผยข้อมูล หรือธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้บริการ คู่ค้าหรือลูกค้าของผู้ใช้บริการรายหนึ่งรายใด หรือหลายรายต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ เมื่อธนาคารได้รับการร้องขอ ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารเปิดเผยข้อมูล และ/หรือจัดทำรายงานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้บริการต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐได้ทุกประการ |
31. |
เมื่อผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใดแก่ธนาคาร (ก) ผู้ใช้บริการรับรองที่จะตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการให้แก่ธนาคาร และแจ้งธนาคารถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ (หากมี) (ข) ผู้ใช้บริการรับรองว่าผู้ใช้บริการได้รับความยินยอม หรือสามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับ (ค) ผู้ใช้บริการรับรองว่าผู้ใช้บริการได้แจ้งประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องของธนาคารแก่บุคคลดังกล่าวแล้ว และ (ง) ผู้ใช้บริการรับรองว่าธนาคารสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอน ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของธนาคาร ซึ่งอาจมีการแก้ไขเป็นครั้งคราว ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ทั้งหมดที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการกรุงศรีบิซออนไลน์ฉบับนี้ |
32. |
ผู้ใช้บริการจะปฏิบัติตามและจะดำเนินการให้บุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เท่าที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของธนาคารภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงจะให้ความร่วมมือกับธนาคาร และ/หรือจะลงนาม ส่งมอบ หรือดำเนินการให้มีการส่งมอบเอกสาร หรือหลักฐานใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่ธนาคารร้องขอโดยชอบด้วยเหตุผล |