TH | EN

การขายคืน LTF ที่ถือครองครบกำหนด

12/01/2022

ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ประสงค์จะขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ผู้ถือหน่วยได้ถือครองมาครบตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว สามารถตรวจสอบจำนวนหน่วยที่สามารถขายคืนได้ และสามารถสั่งขายคืนได้ด้วยวิธีการ ดังนี้

 1.    การตรวจสอบจำนวนหน่วยลงทุนที่ถือครองครบกำหนด

ท่านสามารถตรวจสอบจำนวนหน่วยที่สามารถขายคืนได้ ด้วยวิธีการดังนี้

1.1. ช่องทางอินเตอร์เน็ต TalisAM Online

  • เข้าไปที่เมนู ข้อมูลการลงทุน
  • กดไปที่ชื่อของ กองทุน LTF ที่ท่านลงทุนไว้
  • จะมีข้อมูลสถานะของรายการลงทุนที่ ครบกำหนดให้ขายคืนได้
  • จดข้อมูล จำนวนหน่วยที่ครบกำหนด เพื่อใช้สำหรับระบุในคำสั่งขายคืน

1.2. ติดต่อสอบถามได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.ทาลิส จำกัด 

  • โทร. 02 015 0222 กด 5  ในวันและเวลาทำการ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.
  • email: customerservice@talisam.co.th

 2.    การสั่งขายคืนหน่วยลงทุน

ท่านสามารถสั่งขายคืนโดยระบุจำนวนหน่วยที่ท่านต้องการขายคืนให้ถูกต้อง ผ่านช่องทางดังนี้

2.1. ช่องทางอินเตอร์เน็ต TalisAM Online

  • เข้าไปที่เมนู ซื้อขายหน่วยลงทุน / ขายคืน
  • เลือก ชื่อกองทุน LTF ที่จะขายคืน
  • เลือก ขายคืนเป็นจำนวนหน่วย และระบุจำนวนหน่วยที่จะขายคืนให้ถูกต้อง

2.2. Streaming Fund+ Mobile Application

2.3. ส่งคำสั่งขายคืนได้ที่บลจ.ทาลิส โดยสามารถ download “คำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนได้ที่ https://www.talisam.co.th/mutual-fund/#fund-download กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน และส่งมาให้บลจ.ทาลิส ที่ email: customerservice@talisam.co.th

2.4. ส่งคำสั่งขายคืนได้ที่ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ท่านเปิดบัญชีกองทุนรวมไว้

หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่โทร. 02 015 0222 กด 5 ในวันและเวลาทำการ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.

คำเตือน: ผู้ถือหน่วยลงทุนควรขายคืนกองทุน LTF เมื่อถือครองครบกำหนดตามที่กฎหมายกำหนด (ไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน) ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา มิฉะนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่ม และ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร

ข่าว 2
ข่าว 3
ข่าว 4
ข่าว 5
เปิดรับคำสั่งซื้อขาย-หลัง IPO (MEGATX8020U, MEGATX8020C)
บลจ. ทาลิส จำกัด (บริษัทจัดการ) ขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทจัดการจะเปิดรับคำสั่งซื้อ/ขายคืน/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนภายหลังจากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ของ กองทุนเปิด MEGA 20 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ 80-20 U (MEGATX8020U) และกองทุนเปิด MEGA 20 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ 80-20 C (MEGATX8020C)   โดยทั้งสองกองทุนรวม แบ่งชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนเป็น 3 ชนิด ได้แก่1.      ชนิดเงินลงทุนใหม่ในปี 2568 (N) สามารถสั่งซื้อหน่วยลงทุนหลัง IPO ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 และหลังจากนั้น บริษัทจัดการจะเปิดรับเฉพาะ คำสั่งขายคืน และคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน(ระหว่างชนิดหน่วยลงทุนเดียวกัน) เท่านั้น2.      ชนิดเงินลงทุนเดิม (L) จะเปิดรับคำสั่งสับเปลี่ยนจาก กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของบลจ. ทาลิส มายัง กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ ชนิดเงินลงทุนเดิม ทั้ง MEGATX8020U-L และ MEGATX8020C-L ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 โดยจะทำรายการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนตามคำสั่งที่ได้รับในแต่ละสัปดาห์ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์นั้น ๆ และวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร และหลังจากนั้น บริษัทจัดการจะเปิดรับเฉพาะ คำสั่งขายคืน และคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน (ระหว่างชนิดหน่วยลงทุนเดียวกัน) เท่านั้น3.      ชนิดเงินลงทุนใหม่ สำหรับเงินลงทุนตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป (T) ปัจจุบันยังไม่เสนอขายผู้ที่สนใจสามารถลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทาลิส โทร. 02-015-0222 หรือ download หนังสือชี้ชวนหรือข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุน ได้จาก www.talisam.co.th(คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน THAI ESGX กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน)
09/05/2025
ช่องทางการให้บริการทาง Mobile Application
บลจ.ทาลิส ได้เพิ่มช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application "Streaming Fund+" ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ในการซื้อขายกองทุนรวม เช็คสถานะคำสั่งซื้อขายกองทุนรวม ติดตามพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวม และดูข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าถึงกองทุนรวมได้ทุกที่ทุกเวลา และสะดวกทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ผู้ที่สนใจใช้บริการนี้ สามารถ download แอปพลิเคชัน “Streaming Fund+” ได้จาก App Store ผ่านเครื่อง iPhone/iPad หรือจาก Play Store ผ่านเครื่อง Android และทำการสมัครใช้บริการนี้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะต้องทำการเปิดบัญชีกองทุนรวมกับบลจ.ทาลิสก่อนเข้าใช้บริการนี้ หลังจากที่บลจ.ทาลิส อนุมัติการขอใช้บริการ จะส่งอีเมลกลับไปแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบต่อไป ติดต่อสอบถามวิธีการสมัครได้ที่ 02-015-0222 กด 5
18/09/2024
การขายคืน LTF ที่ถือครองครบกำหนด
ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ประสงค์จะขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ผู้ถือหน่วยได้ถือครองมาครบตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว สามารถตรวจสอบจำนวนหน่วยที่สามารถขายคืนได้ และสามารถสั่งขายคืนได้ด้วยวิธีการ ดังนี้ 1.    การตรวจสอบจำนวนหน่วยลงทุนที่ถือครองครบกำหนด ท่านสามารถตรวจสอบจำนวนหน่วยที่สามารถขายคืนได้ ด้วยวิธีการดังนี้ 1.1. ช่องทางอินเตอร์เน็ต TalisAM Online เข้าไปที่เมนู “ข้อมูลการลงทุน”กดไปที่ชื่อของ กองทุน LTF ที่ท่านลงทุนไว้จะมีข้อมูลสถานะของรายการลงทุนที่ “ครบกำหนด” ให้ขายคืนได้จดข้อมูล “จำนวนหน่วย” ที่ครบกำหนด เพื่อใช้สำหรับระบุในคำสั่งขายคืน 1.2. ติดต่อสอบถามได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.ทาลิส จำกัด  โทร. 02 015 0222 กด 5  ในวันและเวลาทำการ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.email: customerservice@talisam.co.th  2.    การสั่งขายคืนหน่วยลงทุน ท่านสามารถสั่งขายคืนโดยระบุจำนวนหน่วยที่ท่านต้องการขายคืนให้ถูกต้อง ผ่านช่องทางดังนี้ 2.1. ช่องทางอินเตอร์เน็ต TalisAM Online เข้าไปที่เมนู “ซื้อขายหน่วยลงทุน / ขายคืน”เลือก ชื่อกองทุน LTF ที่จะขายคืนเลือก “ขายคืนเป็นจำนวนหน่วย และระบุจำนวนหน่วยที่จะขายคืน” ให้ถูกต้อง 2.2. Streaming Fund+ Mobile Application 2.3. ส่งคำสั่งขายคืนได้ที่บลจ.ทาลิส โดยสามารถ download “คำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน” ได้ที่ https://www.talisam.co.th/mutual-fund/#fund-download กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน และส่งมาให้บลจ.ทาลิส ที่ email: customerservice@talisam.co.th 2.4. ส่งคำสั่งขายคืนได้ที่ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ท่านเปิดบัญชีกองทุนรวมไว้ หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่โทร. 02 015 0222 กด 5 ในวันและเวลาทำการ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.คำเตือน: ผู้ถือหน่วยลงทุนควรขายคืนกองทุน LTF เมื่อถือครองครบกำหนดตามที่กฎหมายกำหนด (ไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน) ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา มิฉะนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่ม และ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร
12/01/2022