TH | EN

ช่องทางการให้บริการทาง Mobile Application

18/09/2024

บลจ.ทาลิส ได้เพิ่มช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application "Streaming Fund+" ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ในการซื้อขายกองทุนรวม เช็คสถานะคำสั่งซื้อขายกองทุนรวม ติดตามพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวม และดูข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าถึงกองทุนรวมได้ทุกที่ทุกเวลา และสะดวกทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ผู้ที่สนใจใช้บริการนี้ สามารถ download แอปพลิเคชัน “Streaming Fund+ได้จาก App Store ผ่านเครื่อง iPhone/iPad หรือจาก Play Store ผ่านเครื่อง Android และทำการสมัครใช้บริการนี้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะต้องทำการเปิดบัญชีกองทุนรวมกับบลจ.ทาลิสก่อนเข้าใช้บริการนี้ หลังจากที่บลจ.ทาลิส อนุมัติการขอใช้บริการ จะส่งอีเมลกลับไปแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบต่อไป ติดต่อสอบถามวิธีการสมัครได้ที่ 02-015-0222 กด 5


ข่าว 2
ข่าว 3
ข่าว 4
ข่าว 5
IPO: 2 กองทุน THAI ESGX (2-8 พ.ค.2568)
บลจ.ทาลิส เปิดเสนอขาย IPO ของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (THAI ESGX) จำนวน 2 กองทุน ระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2568 ดังนี้ กองทุนเปิด MEGA 20 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ 80-20 U (MEGATX8020U) และ กองทุนเปิด MEGA 20 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ 80-20 C (MEGATX8020C)  โดยทั้งสองกองทุนรวม แบ่งชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนเป็น 3 ชนิด ได้แก่  ชนิดเงินลงทุนใหม่ สำหรับเงินลงทุนปี 2568 (N) เสนอขาย IPO ทั้ง MEGATX8020U-N และ MEGATX8020C-N ระหว่างวันที่ 2 - 8 พ.ค. 2568 และสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนหลัง IPO ได้ตั้งแต่วันที่  13 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568ชนิดเงินลงทุนเดิม สำหรับการสับเปลี่ยนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (L) ซึ่งจะเปิดรับคำสั่งสับเปลี่ยนจาก กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของบลจ.ทาลิส มายัง กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ ชนิดเงินลงทุนเดิม ทั้ง MEGATX8020U-L และ MEGATX8020C-L ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 โดยจะทำรายการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนตามคำสั่งที่ได้รับในแต่ละสัปดาห์ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์นั้น ๆ และวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร  ชนิดเงินลงทุนใหม่ สำหรับเงินลงทุนตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป (T) ปัจจุบันยังไม่เสนอขาย   ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดก่อนการลงทุน  กองทุนMEGA20TX8020U-NMEGA20TX8020C-N หุ้นไทย >=80% ของ NAV ลงทุนใน หุ้นไทย ของบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG จำนวนประมาณ 20-25 บริษัท ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ลงทุนใน หุ้นไทย ของบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG จำนวนประมาณ 20-25 บริษัทในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน หลักทรัพย์อื่น >=20%ของ NAV ลงทุนในหน่วยลงทุนของ กองทุน MEGA10-A ที่บริหารจัดการโดยบลจ.ทาลิส ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน ร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ลงทุนในหน่วยลงทุนของ กองทุน MEGA10CHINA-A ที่บริหารจัดการโดยบลจ.ทาลิส ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน ร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ  กองทุน MEGATX8020U-N เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนใน SET และ/หรือ MAI  ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) หรือหุ้นจดทะเบียนที่มีธรรมาภิบาล (Governance) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะใช้การบริหารแบบ Rule-based Approach ซึ่งจะกำหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกลงทุนในหลักทรัพย์เฉพาะที่ได้รับ ESG Rating จาก SET ในระดับ AA ขึ้นไป จำนวนประมาณ 20-25 บริษัท และจะทำการพิจารณาปรับรายชื่อหลักทรัพย์ และ/หรือ ปรับสัดส่วนการลงทุนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งส่วนที่เหลือ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนจะเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของ กองทุนเปิด MEGA 10 ที่บริหารจัดการโดยบลจ.ทาลิส ซึ่งมีนโยบายลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายใน NYSE / NASDAQ และเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) จากการจัดอันดับโดยสถาบันจัดอันดับตราสินค้า (Brand) ระดับสากล โดยจะคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และที่มีสภาพคล่องสูงสุด10 บริษัทแรก รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ   กองทุน MEGATX8020C-N เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนใน SET และ/หรือ MAI  ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) หรือหุ้นจดทะเบียนที่มีธรรมาภิบาล (Governance) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะใช้การบริหารแบบ Rule-based Approach ซึ่งจะกำหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกลงทุนในหลักทรัพย์เฉพาะที่ได้รับ ESG Rating จาก SET ในระดับ AA ขึ้นไป จำนวนประมาณ 20-25 บริษัท และจะทำการพิจารณาปรับรายชื่อหลักทรัพย์ และ/หรือ ปรับสัดส่วนการลงทุนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งส่วนที่เหลือ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนจะเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของ กองทุนเปิด MEGA 10 CHINA ที่บริหารจัดการโดยบลจ.ทาลิส ซึ่งมีนโยบายลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX)  และเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) ในกลุ่ม TOP/BEST CHINESE BRANDS โดยจะคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และที่มีสภาพคล่องสูงสุด 10 บริษัทแรก รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทาลิส โทร. 02-015-0222 หรือ download หนังสือชี้ชวนหรือข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุน MEGATX8020U-N ได้จาก https://www.talisam.co.th/megatx8020u-n  และกองทุน MEGATX8020C-N ได้จาก https://www.talisam.co.th/megatx8020c-n   ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญประกอบด้วย ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk)  ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง (Liquidity Risk) ความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ (Country and Political Risk) และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Risk)  (คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน THAI ESGX กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน)
30/04/2025
ช่องทางการให้บริการทาง Mobile Application
บลจ.ทาลิส ได้เพิ่มช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application "Streaming Fund+" ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ในการซื้อขายกองทุนรวม เช็คสถานะคำสั่งซื้อขายกองทุนรวม ติดตามพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวม และดูข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าถึงกองทุนรวมได้ทุกที่ทุกเวลา และสะดวกทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ผู้ที่สนใจใช้บริการนี้ สามารถ download แอปพลิเคชัน “Streaming Fund+” ได้จาก App Store ผ่านเครื่อง iPhone/iPad หรือจาก Play Store ผ่านเครื่อง Android และทำการสมัครใช้บริการนี้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะต้องทำการเปิดบัญชีกองทุนรวมกับบลจ.ทาลิสก่อนเข้าใช้บริการนี้ หลังจากที่บลจ.ทาลิส อนุมัติการขอใช้บริการ จะส่งอีเมลกลับไปแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบต่อไป ติดต่อสอบถามวิธีการสมัครได้ที่ 02-015-0222 กด 5
18/09/2024
การขายคืน LTF ที่ถือครองครบกำหนด
ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ประสงค์จะขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ผู้ถือหน่วยได้ถือครองมาครบตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว สามารถตรวจสอบจำนวนหน่วยที่สามารถขายคืนได้ และสามารถสั่งขายคืนได้ด้วยวิธีการ ดังนี้ 1.    การตรวจสอบจำนวนหน่วยลงทุนที่ถือครองครบกำหนด ท่านสามารถตรวจสอบจำนวนหน่วยที่สามารถขายคืนได้ ด้วยวิธีการดังนี้ 1.1. ช่องทางอินเตอร์เน็ต TalisAM Online เข้าไปที่เมนู “ข้อมูลการลงทุน”กดไปที่ชื่อของ กองทุน LTF ที่ท่านลงทุนไว้จะมีข้อมูลสถานะของรายการลงทุนที่ “ครบกำหนด” ให้ขายคืนได้จดข้อมูล “จำนวนหน่วย” ที่ครบกำหนด เพื่อใช้สำหรับระบุในคำสั่งขายคืน 1.2. ติดต่อสอบถามได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.ทาลิส จำกัด  โทร. 02 015 0222 กด 5  ในวันและเวลาทำการ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.email: customerservice@talisam.co.th  2.    การสั่งขายคืนหน่วยลงทุน ท่านสามารถสั่งขายคืนโดยระบุจำนวนหน่วยที่ท่านต้องการขายคืนให้ถูกต้อง ผ่านช่องทางดังนี้ 2.1. ช่องทางอินเตอร์เน็ต TalisAM Online เข้าไปที่เมนู “ซื้อขายหน่วยลงทุน / ขายคืน”เลือก ชื่อกองทุน LTF ที่จะขายคืนเลือก “ขายคืนเป็นจำนวนหน่วย และระบุจำนวนหน่วยที่จะขายคืน” ให้ถูกต้อง 2.2. Streaming Fund+ Mobile Application 2.3. ส่งคำสั่งขายคืนได้ที่บลจ.ทาลิส โดยสามารถ download “คำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน” ได้ที่ https://www.talisam.co.th/mutual-fund/#fund-download กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน และส่งมาให้บลจ.ทาลิส ที่ email: customerservice@talisam.co.th 2.4. ส่งคำสั่งขายคืนได้ที่ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ท่านเปิดบัญชีกองทุนรวมไว้ หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่โทร. 02 015 0222 กด 5 ในวันและเวลาทำการ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.คำเตือน: ผู้ถือหน่วยลงทุนควรขายคืนกองทุน LTF เมื่อถือครองครบกำหนดตามที่กฎหมายกำหนด (ไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน) ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา มิฉะนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่ม และ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร
12/01/2022